ภาพรวม AI ทั่วโลกเป็นยังไง ? สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) มาให้อ่านกัน เพื่อคาดการณ์แนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในอุตสากรรม AI ปี 2024 จะมีอะไรบ้างมาดูกัน !
17 ประเด็นสำคัญต้องรู้เกี่ยวกับ AI
- Foundation Models (โมเดลพื้นฐาน) AI ส่วนใหญ่มาในรูปแบบ Open-source: จากการสำรวจพบว่า ใน 2023 มีการเปิดตัวโมเดลพื้นฐาน (Foundation Models) ถึง 149 ตัว ซึ่งโมเดลถึง 65.7% มาในรูปแบบ Open-source (ทุกคนสามารถหยิบไปใช้และพัฒนาได้อย่างอิสระ)
- โมเดลแบบ Closed-source ยังคงมีประสิทธิภาพเหนือกว่า: จาก 10 เกณฑ์การเปรียบเทียบสมรรถนะ พบว่า โมเดลแบบ Closed-source มีประสิทธิภาพเหนือกว่าแบบ Open-source โดยเฉลี่ยที่ 24.2%
- Google ครองตำแหน่งผู้เล่นใหญ่ในอุตสาหกรรม AI: Google เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม AI ด้วยการเปิดตัวโมเดลพื้นฐานต่างๆ ในจำนวนที่สูงที่สุด เพียงแค่ปี 2023 เปิดตัวไปแล้ว 18 ตัว ซึ่งตั้งแต่ 2019 เป็นต้นมา Google มีโมเดลพื้นฐานอยู่ถึง 40 โมเดล
- ภาคธุรกิจคือผู้พัฒนาหลักในอุตสาหกรรม AI: ภาคธุรกิจก้าวขึ้นมานำหน้าภาคการศึกษาและรัฐบาลในการพัฒนาโมเดลพื้นฐาน โดยในปี 2023 โมเดลพื้นฐานถึง 72% ได้รับการสร้างและพัฒนาโดยภาคธุรกิจ
- ปัจจุบันต้นทุนการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมมาก: เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาคการศึกษาและรัฐบาลไม่สามารถแข่งขันกับภาคธุรกิจได้ หากย้อนกลับไป 2017 โมเดลรุ่นดั้งเดิมอย่าง Transformer ของ Google มีต้นทุนการพัฒนาเพียงแค่ 900 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 30,000 บาท) แต่ปัจจุบันต้นทุนการพัฒนา Gemini Ultra ของ Google มีค่าใช้จ่ายประมาณ 191 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7 พันล้านบาท)
- สหรัฐอเมริกาเป็นเบอร์ 1 ในการแข่งขันด้าน AI: นับตั้งแต่ปี 2019 สหรัฐฯครองตำแหน่งเบอร์ 1 ผู้นำในการสร้างโมเดล AI และข้อมูลจากปี 2023 พบว่าสหรัฐฯ ขึ้นแซงหน้าประเทศอื่นๆ ไปไกลด้วยการพัฒนาโมเดลพื้นฐานถึง 61 โมเดล ตามมาด้วยจีน 15 โมเดล และสหราชอาณาจักร 8 โมเดล
- AI มีประสิทธิภาพถึงระดับที่เทียบเคียงได้กับมนุษย์: เมื่อปี 2023 ความสามารถตามเกณฑ์มาตรฐาน AI สามารถก้าวมาสู่จุดที่มีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์ ซึ่งวัดจากการทดสอบความเข้าใจในการอ่านไปจนถึงการใช้เหตุผลเชิงภาพ (Visual Reasoning) แต่ก็ยังมีส่วนที่ AI ยังสู้มนุษย์ไม่ได้ เช่น การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ระดับที่ใช้แข่งขัน
- การลงทุนภาคเอกชนด้าน AI ลดลง: นับตั้งแต่ปี 2021 การลงทุนโดยรวมใน AI โดยภาคเอกชนลดลง แต่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นใน Generative AI เมื่อปีที่ผ่านมา Gen AI ดึงดูดเงินลงทุนได้ถึง 25.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9.2 แสนล้าน) เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าจากปี 2019 ซึ่ง Generative AI คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของการลงทุนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับ AI ทั้งหมดในปี 2023
- สหรัฐอเมริกาลงทุนด้าน AI สูงสุดในโลก: ในปี 2023 สหรัฐฯ ลงทุนมหาศาลใน AI กว่า 67.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท) ซึ่งหากพิจารณาการลงทุนสะสมตั้งแต่ปี 2013 สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำด้วยเงินลงทุนรวม 335.2 พันล้านดอลลาร์ (ราว 12 ล้านล้านบาท) มีผู้เล่นหลักในตลาด Gen AI ได้แก่ OpenAI, Anthropic, Hugging Face และ Inflection เป็นต้น
- องค์กรต่างๆ นำ AI มาใช้มากขึ้น: จากการสำรวจพบว่าในปี 2023 มีองค์กรถึง 55% ที่นำ AI มาใช้กับงานบางส่วน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์ของลูกค้า เช่น ปรับศูนย์รับเรื่องเป็นระบบอัตโนมัติ, ปรับปรุงคอนเทนต์, และการดึงดูดลูกค้าใหม่
- คนรุ่นใหม่และคนรวยกังวลว่า AI จะส่งผลกระทบกับงาน: Gen Z และมิลเลนเนียล คาดว่างานของพวกเขาจะได้รับผลกระทบจาก AI ซึ่งบางส่วนกังวลถึงการถูกแย่งงาน จากการสำรวจพบว่าคนรุ่นใหม่กังวลเกี่ยวกับ AI มากกว่า Baby Boomer นอกจากนี้กลุ่มคนรายได้สูงก็กังวลว่า AI จะส่งผลต่อธุรกิจการงานของพวกเขาเช่นกัน
- ออสเตรเลียเป็นประเทศที่กังวลเรื่อง AI มากที่สุดในเครือจักรภพ: จากการสำรวจความกังวลเรื่อง AI ของประเทศเครือจักรภพ (Commonwealth) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศระดับรัฐบาล ประกอบด้วย 56 ประเทศทั่วโลก พบว่า ชาวออสเตรเลียถึง 69% และชาวอังกฤษกว่า 65% ยอมรับว่ามีความกังวลเรื่อง AI
- มีการเพิ่มจำนวนกฏหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับ AI โดยเฉพาะในสหรัฐฯ: หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯจำนวนมากกำลังตั้งกฏระเบียบเพื่อปกป้องผู้คนและเพื่อควบคุมวิธีการใช้เครื่องมือและข้อมูลจาก AI แค่ในปี 2023 มีข้อบังคับด้านปัญญาประดิษฐ์เพิ่มขึ้นกว่า 56.3% และมีกฏหมายข้อบังคับเกี่ยวกับ AI โดยเฉพาะเพิ่มขึ้นถึง 25 ข้อในปีเดียวกัน
- ยังขาดการประเมินความรับผิดชอบของ LLM ที่แข็งแกร่งและมีมาตรฐาน: งานวิจัยใหม่จาก AI Index พบว่าในปัจจุบันยังไม่มีวิธีทดสอบความรับผิดชอบของ LLM ที่มีมาตรฐาน ผู้พัฒนารายใหญ่อย่าง OpenAI, Google และ Anthropic มักใช้การทดสอบในแนวทางที่แตกต่างกัน ทำให้ยากต่อการวัดและเปรียบเทียบความเสี่ยงและข้อจำกัดของโมเดล AI
- AI ทำให้พนักงานมีประสิทธิผลมากขึ้นและผลิตงานที่มีคุณภาพดีขึ้น: การศึกษาหลายชิ้นในปี 2023 ที่ประเมินผลกระทบของ AI ที่มีต่อแรงงาน ชี้ว่า AI ช่วยให้พนักงานทำงานเสร็จเร็วขึ้นและผลิตงานที่มีคุณภาพดีขึ้น โดย AI จะเข้ามาเชื่อมช่องว่างด้านทักษะระหว่างพนักงานที่มีทักษะต่ำและสูง แต่ถึงอย่างไรหากใช้ AI โดยไม่มีการควบคุมดูแลที่เหมาะสมก็อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้เช่นกัน
- AI คือตัวเร่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์: ตั้งแต่ปี 2022 ปัญญาประดิษฐ์ก็สามารถช่วยเหลือด้านการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ และในปี 2023 ก็มีการเปิดตัวเครื่องมือ AI ที่สำคัญทางวิทยาศาสตร์มากมาย เช่น AlphaDev เรียงลำดับข้อมูลโดยใช้อัลกอริธึม หรือ GNoME ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการค้นพบวัสดุใหม่ๆ
- ผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก AI มากขึ้น: ผลสำรวจโดย Ipsos พบว่าในปีที่ผ่านมา ผู้คนจำนวนมากขึ้นเริ่มกังวลว่า AI จะมีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของพวกเขาในอีก 3-5 ปีข้างหน้า โดยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจาก 60% เป็น 66%
อ้างอิง: AI Index: State of AI in 13 Charts, Top Key Takeaways AI Index Report
ที่มา Techsauce media