ตลาดอสังหาฯ แนวราบ/คอนโดฯ ในไทย ยอดขาย -32.3% ซัปพลายเหลือเกินกว่า 1.9 แสนหน่วย อสังหาฯ เพื่อสุขภาพ – อาคารประหยัดพลังงาน – คอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ เทรนด์มาแรง แนะจับกลุ่ม คนสูงวัย/คนรักสัตว์ ด้านอสังหาฯ ภาคท่องเที่ยว เที่ยวบินระยะสั้น แรงส่งฟื้นตัว ดันห้องพักในโรงแรมในกรุงเทพฯ เพิ่ม 10% ภายในปี 2568
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เผยผลสำรวจภาคสนามตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบและอาคารชุดในกรุงเทพฯ และ 5 จังหวัดปริมณฑล ไตรมาส 2/2566 ยอดขาย -32.3% หน่วยเหลือขายเกินกว่า 1.9 แสนหน่วย
โดยอ้างอิงเฉพาะโครงการแนวราบและอาคารชุดที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย พบว่าหน่วยที่มีการเสนอขาย (ซัปพลาย) ที่อยู่อาศัย รวมบ้านจัดสรร และอาคารชุด 206,246 หน่วย มูลค่า 1,019,318 ล้านบาท ขยายตัว 3.3% และ 5.3% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
จำนวนข้างต้น เป็นหน่วยเกิดจากโครงการเปิดตัวใหม่ 23,080 หน่วย หรือเพียง 11.19% ของหน่วยที่เสนอขายทั้งหมด มูลค่า 127,774 ล้านบาท หรือเพียง 12.54% ของมูลค่าที่เสนอขายทั้งหมด
ยอดขาย (ดีมานด์) มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 15,959 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 83,499 ล้านบาท จำนวนหน่วยลดลง -32.3% มูลค่าลดลง -28.4%
จำนวนข้างต้นเป็นการขายได้ใหม่ของโครงการอาคารชุด 5,909 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 24,900 ล้านบาท โดยจำนวนหน่วยลดลง -56.5% มูลค่าลดลง -53.1%
และเป็นโครงการบ้านจัดสรร 10,050 หน่วย มูลค่า 59,490 ล้านบาท โดยจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 0.7% มูลค่าลดลง -8.9%
ชลบุรีแซงกรุงเทพฯ รอบ 5 ปี ทำเลคอนโดถูกใจต่างชาติ
ชลบุรี แซง กรุงเทพฯ รอบ 5 ปี
ทำเลฮอต ต่างชาติแห่ซื้อคอนโดฯ |
|||
ทอป 5 ชาวต่างชาติซื้อคอนโดฯ ในไทย | ยูนิต | มูลค่ารวม/ล้านบาท | เฉลี่ยต่อยูนิต / ล้านบาท |
จีน | 3,448 | 16,992 | 4.9 |
รัสเซีย | 702 | 2,556 | 3.6 |
สหรัฐฯ | 293 | 1,289 | 4.4 |
ฝรั่งเศส | 269 | 1,127 | 4.2 |
สหราชอาณาจักร | 260 | 1,287 | 4.9 |
รวมทั้งหมด | 7,338 | 35,211 | 4.8 |
จังหวัดยอดขายสูงสุด | ยูนิต | มาร์เก็ตแชร์ | |
ชลบุรี | 3,183 | 43.4% | |
กรุงเทพฯ | 2,765 | 37.7% | |
ภูเก็ต | 462 | 6.3% | |
เชียงใหม่ | 375 | 5.1% | |
ประจวบคีรีขันธ์ | 167 | 2.3% | |
ที่มา: รายงานโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ทั่วไทยให้ชาวต่างชาติ ช่วง ม.ค. – มิ.ย. 2566 โดย REIC |
สถานการณ์โอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ทั่วประเทศไทย ให้คนต่างชาติ ขยายตัว 65.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ส่วนไตรมาส 2/2566 เพิ่มขึ้น 53.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน
โดยยอดโอนตามรายจังหวัด กรุงเทพฯ ที่ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 มาตั้งแต่ปี 2561-65 เสียอันดับให้กับชลบุรี ที่ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในครึ่งแรกปีนี้ และหากนับเฉพาะ 2 จังหวัดแรกนี้พบว่ามีมาร์เก็ตแชร์จำนวนยูนิตรวมกันมากถึง 81.1%
อสังหาฯ เพื่อสุขภาพ – คอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ – อาคารรักษ์โลก เทรนด์อสังหาฯ มาแรง
แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลอปเมนต์ เผยในงานสัมมนาเทรนด์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2566 อสังหาฯ เพื่อสุขภาพ หรือ เวลเนส เรียลเอสเตท (Wellness Residence) นับเป็นเซกเมนต์อสังหาฯ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าขยายตัวอีกมาก จากประชากรสูงวัยในสังคมไทยเพิ่มสูงขึ้น และผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพในเชิงป้องกันมากกว่าการรักษา
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เผยว่า ภาพรวมตลาดคอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการเปิดตัวมากถึง 35 – 40 โครงการ ประมาณ 8,000 ยูนิต ออริจิ้นครองมาร์เก็ตแชร์เกือบ 40% ของตลาด
คาดการณ์ปี 2567 ตลาดคอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ จะเติบโตขึ้นอีกมากจากแรงส่งของตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านบาท ปี 2565 ขยายตัวจากปี 2562 ถึง 47.06% และจะอยู่ที่ 55,000 ล้านบาท ปี 2566 ส่วนสำคัญมาจากเทรนด์เลี้ยงสัตว์ของผู้บริโภคเสมือนหนึ่งสมาชิกในครอบครัว หรือ Pet Humanization
คอรัล ไลฟ์ เผยว่า อสังหาฯ นับเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีส่วนในการปล่อยคาร์บอนสูงถึง 40% จากการก่อสร้างและการใช้อาคาร ผลมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
การใช้อาคารประหยัดพลังงาน จึงมีความสำคัญที่ส่งผลต่อคน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่โลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (Climate Change)
อาทิ อาคารที่มีระบบควบคุมการทำงานด้วย Digital twin คือ ข้อมูลทางกายภาพของอาคารที่ใส่ข้อมูลทั้งหมดไปไว้ในโลกดิจิทัล ทั้งค่าฝุ่น PM2.5 การใช้งานลิฟต์โดยสาร ระบบคุมไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ การป้องกันอัคคีภัย และทุกอย่างในอาคาร และแสดงไว้บนแดชบอร์ด (Dashboard) ทำให้บริหารจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต่างชาติเที่ยวไทย 75% มาจากเอเชีย
ด้าน ซีบีอาร์อี คาดการณ์ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาคท่องเที่ยวหลังจากนี้ ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับระยะเวลาการฟื้นตัวของตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ แต่ตลาดก็มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังการแพร่ระบาดของโควิด
คาดการณ์ว่าจำนวนห้องพักในโรงแรมในกรุงเทพฯ จะเพิ่มขึ้น 10% ภายในปี 2568 ส่งผลให้มีจำนวนห้องพักรวมมากกว่า 86,000 แห่ง และเป็นการส่งเสริมความมั่นใจว่าตลาดจะยังคงมีความเคลื่อนไหว และมีการแข่งขันเหมือนที่เคยเป็นมา
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทยมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
โดยขึ้นสู่จำนวนสูงสุดที่ 39 ล้านคนในปี 2562 และคาดว่าจะสูงถึง 25 ล้านคนในปี 2566
แง่ของประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยกว่า 75% มาจากประเทศในเอเชีย เที่ยวบินระยะสั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวนี้ ขณะที่นักท่องเที่ยวจากเที่ยวบินระยะไกลยังคงมีจำนวนน้อยกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาด
บรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศ 7 อันดับแรกที่มาเยือนไทยมากที่สุด ส่วนใหญ่เริ่มกลับมามีจำนวนอยู่ในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าในปี 2562 ยกเว้นประเทศจีน ซึ่งมีจำนวนผู้เดินทางเข้ามายังไทยในไตรมาส 2/2566 น้อยลง 37% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562
ผู้บริโภคมากกว่าครึ่งยังอยากซื้อบ้าน
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผยแพร่รายงานล่าสุดจากการสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทย จัดทำขึ้นทุก 6 เดือน โดยสอบถามออนไลน์ในกลุ่มตัวอย่างอายุตั้งแต่ 22 – 69 ปี จำนวน 1,000 คน อัปเดตล่าสุดรอบเดือน ม.ค. – มิ.ย. 2566
พบว่า ครึ่งหลังปี 2566 ความพึงพอใจที่มีต่อสภาพตลาดที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยังคงทรงตัว โดยเท่ากับรอบครึ่งแรกปีนี้ อยู่ที่ 65% และ 53% ของผู้ตอบแบบสอบถามพร้อมซื้อบ้านใน 1 ปีข้างหน้า แต่ยังคงระวังเรื่องการใช้เงิน
โดยมีผู้บริโภคมากถึง 64% ที่เผยว่าตนเองยังมีเงินออมไม่พอจะเปลี่ยนจากผู้เช่าไปเป็นผู้ซื้อในตลาดที่อยู่อาศัย
ส่วน ลดค่าโอนกรรมสิทธิ์/ค่าจดจำนอง เป็นมาตรการช่วยเหลือเดิมที่ผู้บริโภค 69% อยากให้ภาครัฐทำต่อเนื่อง และ ลดดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นมาตรการใหม่ ๆ ที่ผู้บริโภคอยากให้ภาครัฐทำออกมาช่วยเหลือมากสุดถึง 68%
มุมมองของผู้ประกอบการ
ศุภาลัย แบรนด์อสังหาฯ ที่ทำตลาดระดับประเทศ คาดการณ์ว่า การเติบโตของจีดีพีและโครงสร้างพื้นฐาน จะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อยอดขายมากที่สุด ไม่ใช่ทิศทางดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นการอนุมัติงบประมาณต่าง ๆ ของรัฐบาลใหม่หลังจากนี้จะมีผลทำให้ตลาดดีขึ้น
คอนโดฯ ระดับราคา 3 – 5 ล้านบาทเป็นเซกเมนต์ที่ไปได้ดี ส่วนแนวราบ 5 ล้านบาทขึ้นไปค่อนข้างชะลอตัวลง และผ่านช่วงพีคไปแล้ว จากกลุ่มผู้บริโภคมีกำลังทรัพย์ ซึ่งใช้จ่ายไปตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว เพราะเป็นเบสต์ดีล ก่อนราคาจะขึ้น
ที่มา Marketeer