ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ ท่านประธานกรรมการสุภกิต เจียรวนนท์ และท่านประธานคณะผู้บริหารศุภชัย เจียรวนนท์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ได้แก่ คุณไมเคิล รอสส์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือฯ คุณสรรเสริญ สมัยสุต กรรมการผู้จัดการ แอ๊กซอน (AXONS) คุณธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กลุ่มโลตัสส์ เอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นประเทศจีน คุณสุภาวดี ผลพิรุฬห์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ดร.เนติธร ประดิษฐ์สาร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศด้านความยั่งยืนและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณหวง เหวยเหว่ย ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนประสบการณ์การค้าการลงทุนกับภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำของจีน หนึ่งในนั้นคือการเยี่ยมชมการดำเนินธุรกิจของไมเดียกรุ๊ปซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและเครื่องใช้ไฟฟ้าของจีนที่เติบโตแข็งแกร่งเมื่อไม่นานมานี้ได้ซื้อกิจการ KUKA เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำของโลกจากเยอรมัน และยังซื้อกิจการ Swisslog บริษัทระดับโลกที่มีรากฐานมาประเทศสวิสเซอร์แลนด์และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกด้านลอจิสติกส์ออโตเมชั่น
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ คุณสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และคณะได้เยี่ยมชม iBuilding Midea Intelligent Building อาคารอัจฉริยะของกลุ่มไมเดีย (Midea Group) บริษัทชั้นนำของจีนซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก โดยอาคารอัจฉริยะแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เขตซุ่นเต๋อ เมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ที่มาภาพ midea
ในการนี้คณะผู้บริหารระดับสูงของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้สัมผัสเทคโนโลยีนำสมัยของ iBuilding Midea Intelligent Building ตึกอัจฉริยะแห่งนี้มีระบบควบคุมที่สามารถมองเห็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในอาคาร สามารถควบคุมการใช้ไฟฟ้าและการปล่อยคาร์บอน ส่วนที่ขัดข้องจะมีการแจ้งเตือนสีแดง นอกจากนี้ไมเดียยังได้พัฒนาแขนกลที่สามารถเคลื่อนไหวได้แม่นยำ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยา การบิน ซึ่งใช้ความละเอียดสูงส่วน ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ตู้เย็น สามารถสั่งการด้วยคำพูด สามารถควบคุมความสดอาหารทะเล โดยภายในควบคุมด้วย AI ซึ่งวัตถุดิบต่างกัน จะถูกควบคุมด้วยอุณหภูมิที่ต่างกัน
นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะไมเดีย-คูก้า (Midea-Kuka Smart Manufacturing Industry Park) ซึ่งเป็นฐานการผลิตและพัฒนาระบบอัจฉริยะ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมการผลิต ทั้งนี้ไมเดียกรุ๊ป ได้เข้าซื้อกิจการ KUKA เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำของโลกจากเยอรมัน ซึ่งเชี่ยวชาญด้านโซลูชันอัตโนมัติที่ใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะ โดย KUKA เป็นนิคมฯ ที่ผลิตหุ่นยนต์ถึง 80,000 ตัวต่อปี นอกจากนี้ไมเดียกรุ๊ปยังซื้อกิจการ Swisslog ที่ทำ DC อัตโนมัติและ Healthcare อีกด้วย ซึ่งในการนี้ได้เยี่ยมชมการบริหาร DC Logistics อัตโนมัติ การบริหาร Store ที่ไม่มีมนุษย์ ระบบขนส่งวัสดุทางการแพทย์ในโรงพยาบาลที่สะอาดปลอดภัย เช่น การขนส่งยาผ่านท่อโดยใช้ระยะเวลาสั้นและปลอดเชื้อ เป็นต้น
จากนั้น ท่านประธานอาวุโสธนินท์ และคณะ ได้เยี่ยมชม Heyou International Hospital โรงพยาบาลที่ก่อตั้งโดย Midea Holdings ที่ตั้งเป้าหมายเป็น Smart Hospital ให้บริการโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง มuแพทย์และพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ประมาณ 1,000 คน ภายในพื้นที่จะประกอบด้วย โรงพยาบาล Healthcare center ศูนย์มะเร็ง เทคโนโลยี และศูนย์ชุมชน คาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้การก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์ และสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนมิถุนายน 2567
ที่มาภาพ midea
อนึ่งไมเดียเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าของจีน มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเป่ยเจียวเขต ซุ่นเต๋อ ฝอซานมณฑลกวางตุ้งและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์แสงสว่าง เครื่องใช้ไฟฟ้าน้ำ ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้น เครื่องใช้ในครัวขนาดเล็ก อุปกรณ์ซักรีด ผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ อุปกรณ์ประกอบอาหาร และอุปกรณ์ทำความเย็น เป็นผู้ผลิตเตาอบไมโครเวฟรายใหญ่ที่สุดและเป็น OEM ให้กับหลายแบรนด์ นอกจากนี้ยังมีประวัติอันยาวนานในการผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้านและเชิงพาณิชย์ในด้านระบบทำความร้อน การระบายอากาศ และการปรับอากาศ ( HVAC ) เป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการจัดอันดับที่ #288 ประจำปี พ.ศ.2564 (ค.ศ.2021) จากการจัดอันดับของ Global Fortune 500 ปัจจุบันไมเดียมีสาขาจำหน่ายใน 195 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์ของไมเดียมีทั้งเครื่องปรับอากาศสำหรับอาคารสำนักงานและที่พักอาศัย เครื่องทำความเย็น เครื่องซักผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาถึง 21 แห่ง