ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ
เศรษฐกิจจีน
จีนเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโตแกร่งสุดในรอบเกือบ 2 ปีในเดือน พ.ย.
- ทางการจีนเปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ย.ขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 แม้ว่ายอดค้าปลีกเติบโตต่ำกว่าการคาดการณ์ เศรษฐกิจจียฟื้นตัวขึ้นแบบกระท่อนกระแท่น
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในที่ 15 ธ.ค. ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 6.6% ในเดือนพ.ย.จากปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ในผลสำรวจนักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ 5.6% และตามหลังการปรับตัวขึ้น 4.6% ในเดือนต.ค.
- ขณะที่ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 10.1% ในเดือนพ.ย.จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเติบโตเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. แต่ยังคงต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้น 12.5% หลังจากมีฐานเปรียบเทียบในระดับต่ำในปี 2565 โดยเวลานั้นมาตรการสกัดโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน ส่วนยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 7.6% (อินโฟเควสท์)
เศรษฐกิจยุโรป
อีซีบีหั่นคาดการณ์จีดีพียูโรโซนสู่ระดับ 0.6% ในปีนี้
- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดี(14ธ.ค.) ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2
- การคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ระดับ 4.00% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 4.75% ส่วนอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์อยู่ที่ระดับ 4.50%
- ขณะเดียวกัน อีซีบีประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซน สู่ระดับ 0.6% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 0.7% และปรับลดคาดการณ์จีดีพีในปี 2567 สู่ระดับ 0.8% จากเดิมที่ระดับ 1.0% ขณะที่คงคาดการณ์จีดีพีในปี 2568 ที่ระดับ 1.5%
- นอกจากนี้ อีซีบี คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 5.4%, 2,7% และ 2.1% ในปี 2566, 2567 และ 2568 ตามลำดับ ขณะที่คาดว่าเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 1.9% ในปี 2569 (กรุงเทพธุรกิจ)
เศรษฐกิจไทย
World Bank คาด PM2.5 ทุบเศรษฐกิจไทยถึง 6% ของ GDP
- World Bank เผยความเสียหายต่อสุขภาพจาก PM2.5 ทำให้ ‘ไทย’ เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจถึง 6% ของ GDP พร้อมระบุอีกว่าไทยควรใช้กลไก Carbon Pricing มากขึ้น และจำเป็นต้องมีความทะเยอทะยานเชิงนโยบายมากกว่านี้ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้
- World Bank ระบุว่า ไทยอาจใช้การกำหนดราคาคาร์บอน (Carbon Pricing) มากขึ้น เพื่อรักษาระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่จะต้องมีมาตรการเพิ่มเติม หรือตั้งราคาคาร์บอนที่สูงมากขึ้น
- รายได้ที่เกิดจากการกำหนดราคาคาร์บอนสามารถนำไปใช้เป็นเงินทุนสนับสนุนนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศอื่นๆ หรือเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายสาธารณะ ตัวอย่างเช่น ราคาคาร์บอนอาจช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการใช้งบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐ (เดอะสแตนดาร์ด)