ในช่วงสองปีมานี้ เป็นยุคที่หลายองค์กรตื่นตัวกับเรื่อง Gen AI สูงมาก แต่ LinkedIn ในฐานะแพลตฟอร์มด้านการทำงานได้ออกมาบอกว่า ความตื่นตัวเรื่อง Gen AI จะไม่จบแต่เพียงเท่านี้ แต่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับงานของมนุษย์ และส่งผลกระทบต่อทักษะที่จำเป็นในการก้าวสู่ความสำเร็จ
เฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก LinkedIn คาดการณ์ว่าทักษะที่ใช้ในการทำงานจะเปลี่ยนแปลงไปมากถึง 68% ภายในปี 2030 โดยเป็นผลพวงมาจาก AI / GenAI โดยผู้บริหารหรือนายจ้างในประเทศไทยต้องการให้พนักงานมีทั้งทักษะอย่างสมดุล ทั้งในด้านฮาร์ดสกิล (Hard Skill) และซอฟท์สกิล (Soft Skill) ซึ่งซอฟท์สกิลสำคัญที่ผู้บริหารต้องการ ได้แก่ การสื่อสาร (Communication) ทักษะการวิเคราะห์ (Analytical Skills) ภาวะผู้นำ (Leadership) และการแก้ปัญหา (Problem Solving)
ทักษะ AI ติด Top5 ในโปรไฟล์คนทำงาน
ข้อมูลของ LinkedIn ยังแสดงให้เห็นอีกว่า คนทำงานในประเทศไทยต่างรับรู้ถึงแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงนี้ และกำลังเดินหน้าเสริมทักษะที่ผู้บริหารและนายจ้างให้ความสำคัญ โดยทักษะที่ผู้ใช้งาน LinkedIn ในประเทศไทย เพิ่มเติมลงในโปรไฟล์ของตนเองมากที่สุด ได้แก่
- การคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking)
- การบริหารความสัมพันธ์ผู้มีส่วนได้ส่วนสีย (Stakeholder Management)
- การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)
- การใช้งาน AI (Artificial Intelligence)
- การวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Analysis)
อย่างไรก็ดี ในด้านทักษะ AI ของประเทศไทย นับว่ายังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก แต่แนวโน้มความสนใจของผู้คนที่จะพัฒนาทักษะในด้านนี้กำลังเติบโตขึ้นอย่างทวีคูณ เห็นได้จากหลักสูตรของ LinkedIn Learning ที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็นคอร์สทักษะด้าน Generative AI
ทั้งนี้ LinkedIn พบว่า คนทำงานในประเทศไทยไม่เพียงมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตนเองให้ตามทันเทรนด์ใหม่ แต่ยังพร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงานอีกด้วย และ 77% ของผู้ใช้ LinkedIn ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กำลังมองหางานใหม่ในปีนี้ โดยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การมองหางานที่ค่าจ้างสูงขึ้น (41%) และความสมดุลของชีวิตการทำงาน (36%) เป็นเหตุผลหลักที่พนักงานนำมาพิจารณาในการเปลี่ยนงาน
ที่มา Brand Buffet