กองทัพอากาศ จับมือ เครือซีพี ร่วมสร้างอนาคตใหม่ทหารปลดประจำการ 12,000 ตำแหน่ง พร้อมทุนเรียนฟรี 2,000 ทุน

12 กันยายน 2567 – เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ร่วมมือกับกองทัพอากาศ สร้างโอกาสทางอาชีพและการศึกษาให้แก่ทหารกองประจำการและครอบครัว ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่ลงนามโดย พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ คุณสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เพื่อส่งเสริมอาชีพให้กับทหารกองประจำการและครอบครัวบุคลากรของกองทัพอากาศ โดยนำร่องโครงการจัดหางานให้แก่ทหารกองประจำการที่ปลดประจำการและครอบครัวของข้าราชการกองทัพอากาศ รองรับตำแหน่งอาชีพได้มากกว่า 12,000 อัตราทั่วประเทศ พร้อมให้ทุนการศึกษาฟรีตั้งแต่ระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ที่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ (PAT) มากกว่า 2,000 ทุนต่อปีโดยเน้นการพัฒนาทักษะให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานยุค 5.0 ทั้งนี้ภายในงานมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่กองทัพอากาศ และผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือฯ อาทิ คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ คุณเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ผู้บริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ ตร้า จำกัด (มหาชน) คุณประสิทธิ์ ดำรงชิตานนท์ รองประธานกรรมการ ธุรกิจพืชครบวงจร ข้าว ขนส่งและบริการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CPCRT) คุณพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คุณฐิติ ลุจินตานนท์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ และ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฎิบัติการ ธุรกิจข้าว คุณวิชัย จันทร์จริยากุล กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บมจ.ซีพี ออลล์ คุณวิเชียร จึงวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บมจ. ซีพี ออลล์ เข้าร่วมในพิธีลงนาม ณ ห้องชัยพฤกษ์ หอประชุมกองทัพอากาศ (อาคารทองใหญ่) ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร

พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า “โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทหารกองประจำการที่ปลดประจำการและครอบครัวของบุคลากรของกองทัพอากาศ ซึ่งนอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะอาชีพที่จำเป็นตามความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่แล้ว ยังเป็นการสนับสนุนให้พวกเขาสามารถดูแลครอบครัวได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น ทหารที่ผ่านการฝึกทักษะเหล่านี้จะไม่เพียงแค่มีอาชีพที่มั่นคงเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการปรับตัวกลับเข้าสู่สังคมได้อย่างราบรื่น พร้อมทั้งสามารถมีบทบาทในการสร้างสรรค์และพัฒนาสังคมในชุมชนของพวกเขาได้ต่อไป”

“กองทัพอากาศเชื่อมั่นว่า ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า ความร่วมมือในครั้งนี้ระหว่างกองทัพอากาศและเครือเจริญโภคภัณฑ์แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายในการสร้างโอกาสที่มั่นคงให้แก่ทหารกองประจำการที่ปลดประจำการ เครือซีพีในฐานะภาคเอกชนที่มีความพร้อมและศักยภาพในการฝึกฝนทักษะและมอบโอกาสการทำงานให้กับทหาร ถือเป็นพันธมิตรที่ทรงคุณค่าในการร่วมกันผลักดันโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จ การที่เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในลักษณะนี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างอาชีพให้กับทหาร แต่ยังเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจและชุมชนในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน การกระจายตำแหน่งงานไปทั่วประเทศจะช่วยให้ทหารและครอบครัวสามารถปฏิบัติงานในภูมิลำเนา ส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งในระดับชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว โครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพและภาคเอกชน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับชีวิตทหารและครอบครัว ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติโดยรวม”  ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวในที่สุด

คุณสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า “เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความตั้งใจที่จะนำศักยภาพในหลากหลายธุรกิจขององค์กรมาตอบโจทย์สำคัญของสังคม โดยเฉพาะการสนับสนุนทหารกองประจำการที่ปลดประจำการและครอบครัว ผ่านการสร้างงานและพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในยุคปัจจุบัน โครงการนี้ไม่เพียงเป็นการตอบแทนความเสียสละของทหาร แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของเครือซีพีในการสร้างโอกาสที่มั่นคงให้แก่บุคลากรเหล่านี้ เราเชื่อว่าการส่งเสริมให้พวกเขามีอาชีพที่ยั่งยืนและสามารถดูแลครอบครัวได้ จะไม่เพียงแค่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทหารและครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาสังคมโดยรวม ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชนในทุกภูมิภาค ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของซีพีในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนต่อประเทศชาติ”

พลทหารเอกรัตน์ ทิมแจ้ง (ป๊อบ) อายุ 24 ปี สังกัดศูนย์การทหารอากาศโยธิน หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศกล่าวว่า ขอบคุณกองทัพอากาศและเครือซีพีที่มีโครงการส่งเสริมอาชีพให้กับทหารที่กำลังจะปลดประจำการ ทำให้ทหารที่กำลังจะปลดประจำการเกิดความมั่นใจได้ว่าเมื่อออกไปแล้วจะมีงานทำ โดยจากการดูตำแหน่งในโครงการนี้ มีความน่าสนใจหลายตำแหน่ง โดยส่วนตัวหากปลดประจำการแล้วอยากศึกษาต่อ และหางานทำเพื่อต่อยอดพัฒนาทักษะของตัวเองให้ดีขึ้น โครงการนี้ทำให้เพื่อน ๆ ทหารที่กำลังจะปลดประจำการได้ มีอาชีพที่มั่นคง สามารถหารายได้เลี้ยงครอบครัวต่อไปได้

น้องเขม – เขมทัต จันทรโชติ ตัวแทนครอบครัวทหารอากาศ ปัจุจบันอายุ 18 ปี กำลังศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาการจัดการรัฐกิจและการปกครองท้องถิ่น คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขอบคุณกองทัพอากาศ และ เครือซีพี ที่มอบโอกาสดี ๆ ให้กับครอบครัวบุคลากรของกองทัพอากาศ ส่วนตัวสนใจงานดิลิเวอรีของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น อยากหารายได้ระหว่างเรียน เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง

สำหรับแนวทางการส่งเสริมด้านอาชีพภายใต้ความร่วมมือนี้ จะมีการพัฒนาความรู้และทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ และจัดหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมมากกว่า 12,000 อัตราทั่วประเทศตามที่กล่าวไว้ข้างต้นเพื่อรองรับทหารที่จะปลดประจำการ ทหารอาสาที่จะครบสัญญาและครอบครัวเข้าทำงานกับบริษัทในเครือ  ได้แก่ ซีพีเอฟ  ซีพี ออลล์  ซีพี แอ็กซ์ตร้า (แม็คโคร โลตัส)  กลุ่มทรู ตามทักษะความสามารถและความสนใจได้อย่างสะดวกรวดเร็ว พร้อมจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ พัฒนาทักษะ ฝึกปฏิบัติงานก่อนลงมือทำจริง ใน 3 หมวด 9 หลักสูตร คือ หมวดช่างเทคนิค แบ่งเป็น ช่างเทคนิค ช่างกล ช่างไฟฟ้า ช่างประปา รวมทั้งหมวดปฏิบัติงานในร้านสาขา เติมและจัดเรียงสินค้า ขับรถส่งสินค้า แคชเชียร์ หมวดคลังสินค้าและขนส่ง ขับรถโฟล์คลิฟท์ แพคสินค้า ขับรถบรรทุก  ทั้งนี้สามารถเลือกทำงานในภูมิลำเนาใกล้บ้าน เพื่อกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยแล้วนั้น ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสถาบันครอบครัวที่อบอุ่น และนำไปสู่ชุมชนที่เข้มแข็งได้อีกด้วย

นอกจากนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังสนับสนุนทุนการศึกษา ตั้งแต่ระดับชั้น ปวช.จนถึงระดับปริญญาตรี มากกว่า 2,000 ทุนต่อปี  จากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ (PAT) ซึ่งเป็นการเรียนในรูปแบบ Work-based Education คือ การศึกษาที่เน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์ในการทำงานจริง เป็นการเรียนทฤษฎีจากสถานศึกษาและเรียนรู้ภาคปฏิบัติจากสถานประกอบการตลอดหลักสูตร เพื่อสร้างความมั่นคง และคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญต่อการพัฒนาประเทศให้ยั่งยืนต่อไป

อนึ่งภายใต้ความร่วมมือนี้ไม่เพียงมุ่งส่งเสริมด้านการศึกษาและอาชีพให้กับทหารเท่านั้น แต่จะช่วยสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพพร้อมขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืน และถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการใช้พลังของภาคเอกชนในการสนับสนุนการพัฒนาสังคมในทุกมิติ ทั้งนี้ในงานลงนามบันทึกข้อตกลง ยังมีบูธแนะนำอาชีพและการศึกษา รวมถึงการยกทัพผลิตภัณฑ์ในเครือซีพีมาจำหน่ายในราคาพิเศษให้แก่บุคลากรทหารและครอบครัว เพื่อเป็นการตอบแทนและสร้างสรรค์โอกาสที่ยั่งยืนอีกด้วย