ขณะนี้โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยสู้ Covid-19 ที่ ประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ ประกาศว่าจะสร้างให้เสร็จภายใน 5 สัปดาห์ด้วยเงินลงทุน 100 ล้านบาท และผลิตหน้ากากอนามัยแจกให้คนไทยได้ใช้กันนั้นใกล้แล้วเสร็จเข้าไปทุกที ซึ่งตอนนี้คาดว่าอีก 1 สัปดาห์จะได้เดินเครื่อง และสามารถผลิตด้วยกำลังการผลิตสูงสุด 3 ล้านชิ้นต่อเดือน และนี่คือ10 ความท้าทายที่ทีมงานของโรงงานหน้ากากอนามัยแห่งนี้ต้องทำให้สำเร็จ
ความท้าทายที่ 1 ท่านประธานธนินท์ กำหนดระยะเวลาในการสร้างโรงงานหน้ากากใน 5 สัปดาห์
ความท้าทายที่ 2 โรงงานที่ผลิตหน้ากาก จะต้องทำห้องปลอดฝุ่น (Clean Room) ซึ่งต้องทำให้เสร็จใน 3 สัปดาห์
ความท้าทายที่ 3 เครื่องจักรผลิตหน้ากาก ต้องไปต่อคิวโรงงาน ที่มีคิวผลิตเครื่องจักรยาวเหยียด และ ทุกประเทศแย่งกันหมด
ความท้าทายที่ 4 ตามโจทย์ของคุณธนินท์ เครื่องจักรต้องทันสมัย เป็นแบบอัตโนมัติ ดังนั้น เครื่องที่สั่งมา จะทำงานต่อเนื่องได้วันละ 3 กะ แล้วใช้กำลังคนเพียงแค่กะละ 3 คน
ความท้าทายที่ 5 ตลอดการเตรียมการขนส่ง ถูกยกเลิกเที่ยวบินไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง เพราะความเข้มงวดในการส่งออก ทำให้ต้องวางแผนรายวัน
ความท้าทายที่ 6 พบว่า มีเที่ยวบินว่างที่ซีอาน ทำให้ต้องลากเครื่องจักรโดยใช้รถบรรทุกจากโรงงานกว่า 1700 กิโล เพื่อไปขึ้นเครื่อง แต่พอไปถึงก็ถูกยกเลิกเที่ยวบินอีก
ความท้าทายที่ 7 วัตถุดิบตัวที่ใช้กรองชื่อว่า เมลโบรนด์ (Meltblown) ซีพีใช้เครือข่ายทั่วโลกในการตามหาวัตถุดิบหายาก ขาดตลาด ราคาแพง ถูกยกเลิกออเดอร์กว่า 20 ครั้ง เพราะหลายประเทศเริ่มเข้มงวดด้านการส่งออก
ความท้าทายที่ 8 ประธานธนินท์ กำชับหน้ากากอนามัยของซีพี ทุกชิ้นต้องได้มาตรฐาน จึงต้องไปร่วมมือกับ สจล ลาดกระบัง ในการใช้ระบบสมองอัจฉริยะ AI ในการตรวจหน้ากากทุกชิ้นว่าได้มาตรฐาน
ความท้าทายที่ 9 จะบรรจุลงซอง จากซองลงแพ็ก จากแพ็กบรรจุลงลัง และจากลังไปเข้าโกดัง ต้องอัตโนมัติทั้งหมด ทำให้วิศวกรของซีพี ต้องออกแบบเครื่องจักรเองบางส่วน เพื่อให้หน้ากาก ดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
ความท้าทายที่ 10 ผู้เชี่ยวชาญเจ้าของเทคโนโลยีและเครื่องจักร บินมาไม่ได้ ต้องทำเอง ติดตั้งเอง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญผ่านเทเลคอนเฟอเรนซ์ทางไกล แต่ก็สามารถติดตั้งได้เองภายใน 4 วัน อย่างมีคุณภาพ
และทั้งหมดนี้คือเก็บตก โรงงานหน้ากากอนามัยฟรี ของซีพี ที่เบื้องหลังนั้น ไม่ง่ายเลย กับภารกิจ 5 สัปดาห์เพื่อคนไทย
ที่มา:Beartai