รัฐสภาฝรั่งเศสได้ผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ (Field-to-Fork) แล้ว และกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้
กฎหมายฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกร ปรับปรุงคุณภาพของอาหาร ส่งเสริมอาหารอินทรีย์ ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารภายในประเทศ และลด food waste
สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ คือ
• ร้านค้าปลีกต้องขายอาหารในราคาสูงกว่าต้นทุนที่ซื้อมาอย่างน้อย 10%
• จำกัดการส่งเสริมการขายของห้างค้าปลีก เพื่อลดการทำสงครามราคา โดยห้ามห้างค้าปลีกลดราคาสินค้าเกิน 34% ของราคาสินค้า และไม่เกิน 25% ของปริมาณสินค้าของห้างเพื่อเพิ่มคุณค่าของสินค้า ซึ่งจะทำให้ขายแบบ 1 แถม 2 ไม่ได้
• ห้ามห้างค้าปลีกส่งเสริมการขายอาหารแบบซื้อ 1 แถม 1 หรือ BOGOF (buy-one-get-one-free) เพื่อลด food waste เพราะส่งเสริมให้ผู้บริโภคซื้ออาหารที่ไม่ได้ต้องการ แต่สามารถทำการขายแบบซื้อ 2 แถม 1 ได้
• ตั้งแต่ปี 2022 อาหาร 50% ในโรงอาหารต้องเป็นอาหารอินทรีย์หรือมาจาก food chain ที่มีคุณภาพตามที่กำหนด
• กำหนดให้ร้านอาหารต้องห่ออาหารที่ทานลูกค้าทานไม่หมด (doggy bag) โดยเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค. 2021 เพื่อลด food waste
อย่างไรก็ตาม มี 3 ข้อเสนอที่ถูกตัดออกจากร่างกฎหมายนี้ ได้แก่ การห้ามใช้สาร Glyphosateภายใน 3 ปีข้างหน้า การกำหนดให้มีรายการอาหารมังสวิรัติในโรงอาหาร และการกำหนดให้ติดตั้งกล้อง CCTV ในโรงฆ่าสัตว์
ทั้งนี้ ผู้บริหารห้าง Leclerc คาดว่า กฎหมายนี้จะมีผลให้สินค้ากว่า 3,000 รายการมีราคาเพิ่มขึ้น 1-10%
————————————-