กลุ่มการค้าระหว่างประเทศ เปิดตัวโครงการ “Green Buffer for Better” ร่วมกันปลูกต้นไม้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ลดมลพิษทางอากาศ ต่อยอดโครงการ We Grow ปลูกเพื่อความยั่งยืน ประสานความร่วมมือชาวชุมชนรอบโรงงานข้าวนครหลวง ปลูกต้นไม้รวม 600 ต้น ตามแนวริมตลิ่งแม่น้ำป่าสัก ป้องกันการพังทลายของตลิ่ง และยังช่วยป้องกันลม เพิ่มความร่มรื่นให้ชุมชนที่อาศัยอยู่ติดกับแม่น้ำ และช่วยลดปัญหาโลกร้อน พร้อมสานต่อนโยบายเครือฯ สู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2030
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมากลุ่มการค้าระหว่างประเทศ เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดย บริษัท ท่าเรืออยุธยาไอซีดี จำกัด และ บริษัท ข้าว ซี.พี. เปิดตัวโครงการ “Green Buffer for Better” ปลูกต้นไม้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ลดมลพิษทางอากาศ เป็นการสานต่อนโยบายของเครือซีพี สู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและลดวิกฤตโลกร้อน โดยได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่จิตอาสาพระราชทาน หน่วยงานราชการ และชาวบ้านในพื้นที่ บริเวณรอบโรงงานข้าวนครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณฐิติ ลุจินตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมด้วย คุณธรรมวิทย์ ศรีเกริกกริซ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด คุณกมล สัจจา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรืออยุธยาไอซีดี จำกัด คุณองอาจ จัมปากะนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านธุรการ บริษัทข้าว ซี.พี. จำกัด ร่วมด้วย นายสรณต ณ ศรีโต นายอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลา ปลัดเทศบาลอรัญญิก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมด้วยพนักงานเข้าร่วมทำกิจกรรมและร่วมปลูกต้นไม้
คุณฐิติ ลุจินตานนท์ กล่าวว่า บริษัท ท่าเรืออยุธยาไอซีดี จำกัด และ บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด ตระหนักถึงความเป็นอยู่และสภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบโรงงาน และมีแนวคิดในการการรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการการปลูกต้นไม้ ซึ่งนอกจากการสร้างพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ของบริษัทแล้ว ยังได้ร่วมกับหน่วยงานราชการและชุมชน เพื่อต่อยอดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่ชุมชนโดยรอบโรงงาน และช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ภายใต้ปรัชญาเครือฯในเรื่องของความยั่งยืน ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับกิจกรรมการปลูกต้นไม้ได้ โดยเริ่มต้นจากพื้นที่ในบ้านของตัวเอง
“สิ่งสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาและช่วยลดคาร์บอนได้ คือ จะต้องปลูกจิตสำนึกให้แก่พนักงานของเครือฯ ซึ่งจะต้องตระหนักในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ส่วนตัวมองว่าปัญหาเรื่องคาร์บอนและโลกร้อนส่งผลกระทบในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ภัยพิบัติ โรคระบาด อย่างเช่นสถานการณ์โควิด – 19 ที่กำลังส่งผลกระทบอยู่ในขณะนี้”
กิจกรรมในครั้งนี้ พนักงานจาก บริษัท ท่าเรืออยุธยาไอซีดี จำกัด และ บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด ได้ร่วมกับหน่วยงานราชการ ชุมชนโดยรอบโรงงาน เจ้าอาวาสวัดทอง และเจ้าอาวาสวัดแก้ว ที่อนุญาตให้ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ของตนเอง โดยได้ร่วมแรงร่วมใจกันนำต้นกล้าไม้ลงดินปลูก ได้แก่ ต้นไผ่หวาน ต้นสนประดิพัทธ์ จำนวน 600 ต้น ปลูกตามแนวริมตลิ่งของแม่น้ำป่าสัก เพื่อช่วยป้องกันการพังทลายของริมตลิ่ง ช่วยป้องกันลม และช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้ชุมชนที่อาศัยอยู่ติดกับแม่น้ำ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวแล้วยังมีส่วนในการช่วยลดและป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาฝุ่นละออง และเสียงรบกวนจากสถานประกอบการสู่ชุมชน เป็นแนวกันชนทางธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ชุมชนโดยรอบโรงงานอีกด้วย
โครงการ “Green Buffer for Better” เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ต่อยอดจากโครงการ we grow ปลูกเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเครือฯ รณรงค์ให้ทุกหน่วยงานปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่ของตนเองทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนปลูกต้นไม้ยืนต้นและกิจกรรมชดเชยคาร์บอน สอดคล้องกับนโยบายเครือซีพี สู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2030