คุณยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยถึงกรณีศึกษาการปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างไรในงาน iCreator Conference 2020 งานรวมกลุ่มคอนเทนต์ครีเอเตอร์หลากหลายวงการ รวมทั้งแพลตฟอร์มในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ทั้ง Facebook, TikTok, Twitter, LINE ฯว่า วิกฤตโควิด-19 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงและเร่งให้ทางเซเว่นอีเลฟเว่นปรับตัวเร็วมากขึ้น
จากเดิมที่เราคาดกันว่า การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ชัดเจนในอีก 5 ปี ข้างหน้า แต่โควิดเร่งเวลาการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเพียง 2 เดือน เป็น New Normal ท่ีต้องรีบดำเนินการเช่นธุรกิจที่ต้องใช้เงินสดพัฒนาเป็น “แคช วอลเลต” ลูกค้าชำระสินค้าผ่านแพล็ตฟอร์มทรู วอลเลต การให้บริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ผู้บริโภค การเพิ่มสินค้าในส่วนของอี-คอมเมิร์ช ผ่าน All Online ปรับสินค้าที่จำหน่ายเช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เน้นเป็นชามเป็นการขายบะหมี่ซองแพคใหญ่
“เรามองวิกฤตที่เกิดขึ้นเป็นโอกาส พร้อมกับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ให้ความสะดวก มีสินค้าค้าหลายจะซื้อที่ร้านค้า หรือจากที่บ้าน ซื้อที่ทุกที่ทุกเวลา สะดวกซื้อ สะดวกจ่าย สะดวกรับ”
คุณยุทธศักดิ์กล่าว่า ตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่าน มีการปรับตลอดนับตั้งแต่การเป็นร้านสะดวกซื้อขายสินค้าที่จำเป็นให้ลูกค้าอายุระหว่าง 5-25 ปี เมื่อเวลาเปลี่ยน ลูกค้าอายุมากขึ้น วิถีชีวิตเปลี่ยน พฤติกรรมเปลี่ยน ขณะที่ทางธุรกิจเองมีเทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี หันมาบุกตลาดนี้เราก็ปรับตัวหนีไปเป็นร้านอิ่มสะดวกกับสโลแกนหิวเมื่อไรก็แวะมา เราต้องรีบปรับตัวต้องรีบทำทำไม่งั้นจะมีคนอื่นมาทำแทนเรา
ปัจจุบันเซเว่น อีเลฟเว่น มีสาขาในไทยจำนวน 12,000 สาขา มีลูกค้าเฉลี่ยวันละ 1,200 คน ตกวันละ 14 ล้านคน ซึ่งเป็นบิ๊กดาต้า เรามีการทำออนไลน์เข้าหาลูกค้าไม่ใช่เพียงสื่อสารอย่างเดียวแต่ต้องมีการซื้อสินค้าเกิดขึ้นด้วย
ทั้งนี้ได้ยกตัวอย่างเฟสบุ๊กเพจของ เซเว่น อีเลฟเว่น ได้มีการสร้างสรรค์คอนเทนท์เข้าถึงแฟนเพจมากขึ้น โดยจะใช้แนวคิดการนำ “ไวรัล” คอนเทนท์ที่สังคมได้สนใจเรื่องนั้นในเวลานั่นมา ฮีโร่ คอนเทนท์เพื่อสร้างการเข้าถึง เอนเก็จเมนท์ และสุดท้ายขายของได้ เช่นที่ผ่านมาการนำละครบุพเพสันนิวาสมาทำคอนเทนท์ขายของ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องนำคอนเทนท์ที่คนอยากฟัง และเราอยากทำมาผสมผสานกันเพื่อให้คนสนใจมากขึ้น
ที่มา:The Journalistclub.com