“OpenSignal” วิเคราะห์ ประสบการณ์ผู้ใช้ เรื่อง “ความเร็วเน็ตมือถือ” เผย TrueMove H ใช้เวลาโหลดเร็วสุด ชนะกันเพียงไม่กี่วินาที ประเมิน 5G ที่จะเข้ามาจะแรงกว่า 20 เท่า
OpenSignal บริษัทวิเคราะห์เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ เสนอรายงานการวิเคราะห์ล่าสุด เกี่ยวกับ “ประสบการณ์เครือข่ายมือถือในประเทศไทย” ในช่วงต้นเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้ส่วนหนึ่ง ระบุว่า “วิดีโอบนมือถือในประเทศไทยโหลดช้าและหยุดชะงักบ่อยครั้ง” โดย OpenSignal ทดสอบจากผู้ใช้งานทุกเครือข่าย
จากตารางของ OpenSignal พบว่า เครือข่าย TrueMove H ผู้ให้บริการ ระบุว่า รับชมวิดีโอบนมือถือที่ดีที่สุด โดยการโหลดวิดีโอของ TrueMove H เฉลี่ยอยู่ที่ 4.9 วินาที และ DTAC เฉลี่ยอยู่ที่ 5.7 วินาที ขณะที่ผู้ใช้ AIS ต้องรอนานโดยเฉลี่ยมากกว่า 7 วินาทีเพื่อให้เฟรมวิดีโอแรกแสดงผลขึ้นมา
จากตารางของ OpenSignal จะเห็นได้ว่าเครือข่าย TrueMove H เป็นผู้ให้บริการที่มีค่าการรับชมวิดีโอบนมือถือที่ดีที่สุดโดยคะแนนการโหลดวิดีโอของ TrueMove H อยู่ที่ 4.9 วินาทีและคะแนน DTAC อยู่ที่ 5.7 วินาทีในส่วนของผู้ใช้ AIS ต้องรอนานโดยเฉลี่ยมากกว่า 7 วินาทีเพื่อให้เฟรมวิดีโอแรกแสดงผลขึ้นมา
สำหรับปัญหาการรับชมวิดีโอที่ติดขัด ทาง Opensignal ได้วัดผลในช่วงต้นเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่า AIS เป็นผู้ประกอบการไทยเพียงรายเดียว ที่มีปัญหาการโหลดวีดีโอติดขัด มากกว่า ร้อยละ 40 ในขณะที่ DTAC และ TrueMove H พบปัญหาการหยุดเล่นหรือติดขัดขณะรับชมวิดีโอเพียง ร้อยละ 24-26 เท่านั้น
ซึ่งการเข้ามาของเทคโนโลยี 5G ที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ต สูงกว่า 4G/4G+ ที่มีความเร็วสูงสุดเพียง 1Gbps แต่เทคโนโลยี 5G มีความเร็วสูงสุดถึง 20 Gbps หรือมากกว่า 4G ถึง 20 เท่า ขณะที่ความหน่วง(Latency) ลดลงจาก 10 มิลลิวินาที ( คิดเป็น 0.01 วินาที) ในระบบ 4G จะลดลงเหลือเพียง 1 มิลลิวินาที (0.001 วินาที) อันนี้เป็นจุดสำคัญของความแตกต่าง
หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพ คือ การโหลดภาพยนตร์ 1 เรื่อง ความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง อินเทอร์เน็ตในเครื่อข่ายแบบ 4G จะใช้เวลาเร็วสุดที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 6 นาที แต่ด้วยโครงข่าย 5G จะใช้เวลาโหลดเพียง 3.6 วินาทีเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถรองรับการใช้งานได้ถึง 1 ล้านอุปกรณ์ต่อตารางกิโลเมตรจากปัจจุบันเพียง 1 แสนอุปกรณ์เท่านั้น
ขณะที่ประเทศไทยเพิ่งมีการประมูลคลื่นความถี่ต่ำ 700 MHz ที่ กสทช. ขอคืนมาจากช่องทีวีดิจิทัล เพื่อนำมาพัฒนาโคร่งข่าย อินเตอร์เน็ตและบริการ 5G ผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง AIS , True และ DTAC ต่างเข้ามารับการจัดสรรได้ไปบริษัทละ 10MHz และสามารถเริ่มให้บริการได้ในเดือนตุลาคมปีหน้าเป็นต้นไป แม้สิ่งสำคัญและจุดเด่นของบริการ 5G นั้นไม่ได้อยู่ที่การใช้คลื่นต่ำ 700 MHz ให้บริการเป็นหลักหากแต่เป็นการใช้คลื่นสูงซึ่งมีจุดเด่น คือ รองรับปริมาณการใช้งานได้เป็นปริมาณมากพร้อมกัน
แต่ข้อเสีย คือ รัศมีทำการของคลื่นสูงนั้นมีน้อย หรือ ส่งสัญญาณไปได้ไม่ไกล จึงจำเป็นต้องมีคลื่นต่ำมารองรับเป็นรากฐานให้สามารถเข้าถึงบริการได้ก่อน ในส่วนของคลื่นสูงและกลาง ทาง กสทช.มีแผนจะนำมาเปิดประมูลเพิ่มเติมในปลายปีนี้ และกลางปีหน้าเ มื่อผู้ให้บริการมีคลื่นหลากหลาย สูง-กลาง-ต่ำ ก็จะสามารถเปิดให้บริการ 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งกรอบระยะเวลาคงก็หนีไม่พ้นอีก 1 – 2 ปีที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
สำหรับการเข้ามาของเทคโนโลยี 5G จะเข้ามาสนับสนุนหลายด้านในชีวิตประจำวัน อาทิ Internet of Thing ที่โทรศัพท์เพียงเครื่องเดียวสามารถสั่งการได้ทุกอย่าง และสามารถทำให้เทคโนโลยีต่างๆรวมเร็วและฉลาดมากขึ้น อาทิ ระบบป้องกันขโมย ที่จะสามารถทำให้ระบบเซิร์ฟเวอร์ตรวจจับได้ว่ามีความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่ผิดปกติ หรือ รูปร่าง-ท่าทางของบุคคลที่เข้ามาบริเวณบ้าน
ที่มา: Money2Know