รอยยิ้มแห่งความหวัง “ซีพีร้อยรักษ์โลก” “จ้างงาน-สร้างรายได้-สร้างความสุข” กับโครงการฝากเลี้ยงกล้าไม้ชุมชน บรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านช่วงวิกฤตโควิด-19  

ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ประชาชนได้รับผลกระทบทั่วทุกหัวระแหง บางคนที่เคยมีงานทำก็ตกงาน บางคนหาเช้ากินค่ำก็ออกไปทำงานไม่ได้ เงินที่เคยหาได้ก็ไม่สามารถหามาจุนเจือครอบครัว บางคนถึงกับหมดตัวไม่รู้จะหันไปทางไหน เพราะทุกคนประสบปัญหาเช่นเดียวกัน

อย่างคุณ คุณประภาภรณ์  เพชรเหมือน  ชาวบ้านชุมชนห้วยใหญ่ จังหวัดชลบุรี หนึ่งในอีกหลาย ๆ คน ที่ได้รับผลกระทบ เธอมีอาชีพขับรถรับส่งนักเรียน แต่เมื่อมาเจอสถานการณ์โควิด โรงเรียนปิด รถรับส่งนักเรียนก็ไม่มีความจำเป็นทำให้เธอขาดรายได้ไปทันที

คุณอำนวย กลัดเข็มทอง   อาชีพทำทัวร์ท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับผลกระทบ เล่าว่า  เคยมีรายได้จากการพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวเกาะล้าน พอมีรายได้จุนเจือครอบครัวไม่มากก็น้อย แต่เมื่อเจอสถานการณ์โควิดแทบจะไม่ได้ออกไปทำงานเลย นักท่องเที่ยวหดหายจนถึงขณะนี้ยังไม่มีโอกาสได้กลับไปทำงานอีกเลย

ยังมีอีกหนึ่งอาชีพของคนหาเช้ากินค่ำที่ได้รับความดือดร้อน อย่างคุณอำนาจ เรืองศรี ที่ทำงานรับจ้างทั่วไป และปลูกมันสำปะหลัง แต่ปัจจุบันรายได้หายไปกว่าครึ่ง เพราะไม่มีใครจ้างให้ทำงาน

นี่เป็นเพียงบางส่วนของประชนหลากหลายอาชีพที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องและยาวนานมาแรมปีเมื่อขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย

ซีพีร้อยรักษ์โลกจ้างงานสร้างรายได้ให้ชุมชน

จากสถานการณ์ดังกล่าวเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยคุณสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีความห่วงใยและตระหนักถึงคนไทยที่ประสบภาวะยากลำบากในยามนี้ จึงมีนโยบายให้เครือฯ และบริษัทในเครือฯ ร่วมกันร้อยเรียงความดีสู่สังคม ด้วยการส่งเสริมอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน ผ่านโครงการ “ซีพีร้อยรักษ์โลก”

คุณจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะผู้ดูแลโครงการซีพีร้อยรักษ์โลก เล่าว่า โครงการนี้มุ่งส่งเสริมการสร้างอาชีพ ด้วยการ “จ้างงานฝากเลี้ยงกล้าไม้”  ซึ่งเครือฯ และบริษัทในเครือมีนโยบายปลูกต้นไม้ช่วยลดโลกร้อน โดยมีเป้าหมายการปลูก 10 ล้านต้นภายในปี 2573 เพื่อตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนโครงการนี้ยังสะท้อนถึงค่านิยมของเครือซีพีที่ยึดมั่นในหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ ที่การดำเนินธุรกิจต่างๆต้องคำนึงถึงการสร้างประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชน และองค์กรเป็นลำดับสุดท้าย

ทั้งนี้ เครือฯ ได้นำร่องโครงการฝากเลี้ยงกล้าไม้ โดยจ้างงานกลุ่มผู้ตกงาน กลุ่มเกษตรกร กลุ่มอาชีพประมง กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้สร้างสาธารณะประโยชน์แก่สังคม รวมทั้งสิ้น 2,000 ครอบครัว โดยเริ่มใน 3 ชุมชนของจังหวัดชลบุรี ได้แก่ ชุมชนในตำบลห้วยใหญ่ ตำบลนาจอมเทียน และตำบลเขาชีจรรย์ ชาวบ้านจะมีรายได้จากการรับฝากเลี้ยงกล้าไม้ครอบครัวละ 1,000 ต้น ตลอดระยะเวลาฝากเลี้ยง 3 เดือน รวม 15,000 บาทต่อครอบครัว ซึ่งเป็นรายได้ที่แม้จะไม่มากแต่ก็ช่วยต่อชีวิตให้แก่อีกหลายครอบครัวที่กำลังเดือดร้อน นับเป็นอีกหนึ่งโครงการดี ๆ  ที่เครือฯ ได้ช่วยเหลือสังคมในยามยากลำบาก เป็นการช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อให้ก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกัน

ชาวชุมชนสุขใจมีรายได้จุนเจือครอบครัว

            ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้การมีรายได้เพียงพอเพื่อให้สมาชิกในครอบครัวอิ่มท้อง นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว โครงการฝากเลี้ยงต้นกล้า จากซีพีร้อยรักษ์โลก ได้เข้ามาช่วยประคองสถานการณ์ กู้วิกฤตให้แก่หลาย ๆ ครอบครัว  ตัวอย่างเช่นชาวชุมชนห้วยใหญ่ที่วันนี้ได้เข้าร่วมโครงการฝากเลี้ยงกล้าไม้ที่ช่วยกู้วิกฤตและเยียวยาพวกเขา

คุณประภาภรณ์  เพชรเหมือน   บอกว่า  “ดีใจที่มีโครงการนี้เข้ามาช่วยเพิ่มรายได้ให้อีกเยอะ ปกติมีภาระต้องดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน  พอมีเงินส่วนนี้เข้ามาจุนเจือทำให้มีความหวังในการใช่ชีวิตต่อไปได้บ้าง อยากให้มีโครงการแบบนี้เข้ามาในชุมชนอีก จะได้มีรายได้และสู้ต่อไป”

คุณอำนาจ เรืองศรี กล่าวว่า โครงการนี้มีประโยชน์ต่อชุมชนอย่างมาก ทำให้หลาย ๆ ครัวมีรายได้เข้ามาตลอดสามเดือน  ซี่งงานนี้ไม่ได้ทำตลอดทั้งวัน ยังสามารถทำอาชีพอื่นเพิ่มรายได้อีกด้วย

“ช่วงนี้ถ้าเราไม่เลือกงาน มันก็พอมีที่เค้าจะจ้างเรา ถึงไม่มากเท่าแต่ก่อนแต่ก็ดีกว่าเราไม่มีรายได้อะไรเลย”

คุณอำนวย กลัดเข็มทอง  จากอาชีพทำทัวร์ และพอจะมีความรู้เรื่องเกษตรอยู่บ้าง ได้เอาความรู้ที่มีมารับฝากเลี้ยงกล้าไม้ ทำให้มีรายได้ในช่วงตกงาน

“ โครงการนี้ก็ช่วยผมได้เยอะ หากเราใช้จ่ายอย่างประหยัด เงินจำนวนห้าพันต่อเดือนก็อยู่ได้ ช่วงนี้ทุกคนก็ต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ อะไรทีพอจะประหยัดได้ก็ต้องประหยัดไว้ก่อน

คุณนภา รักษาศิลป์  ที่ทำอาชีพค้าขายช่วงนี้ลำบากออกไปค้าขายไม่ได้ และต้องเลิกกิจการไปในที่สุด ได้ร่วมโครงการ รับฝากเลี้ยงกล้าไม้ และได้ทำให้มีรายได้พอเลี้ยงครอบครัว

“มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการนี้ ตั้งแต่เริ่มปรับที่เพาะเลี้ยงกล้าไม้ รดน้ำใส่ปุ๋ย ทำให้มีรายได้มาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวไม่ต้องเป็นภาระของลูกหลาน  เป็นโครงการที่ดีทำให้มีงานทำ ช่วยต่อชีวิต   เพราะเรายังมีภาระเรื่องอื่น ๆ  อีกมาก  อยากจะบอกทุกคนว่าอย่าไปท้อ มีอะไรก็ทำ มีงานอะไรมาถึงมือก็ต้องคว้าไว้ก่อน”

ชาวชุมชนช่วยกันฟูมฟักกล้าไม้สร้างรายได้ให้ครอบครัว

อีกหนึ่งคนที่ถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักอย่างคุณดวงพรรณ  ทองทรัพย์ เจ้าของพื้นที่ที่ใช้เพาะเลี้ยงกล้าไม้ในชุมชน และดูแลจัดการการเพราะเลี้ยงต้นกล้าในชุมชน เล่าว่า พื้นที่ที่ใช้เพาะกล้านี้เดิมเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านพืชผักสมุนไพรของชาวชุมชนห้วยใหญ่ มีสมาชิกอยู่  100 กว่าคน พอโครงการฝากเลี้ยงกล้าไม้ของซีพีเข้ามาในชุมชน ช่วยบรรเทาความเดือนร้อนของชาวบ้านในช่วงโควิดได้มาก เพราะบางคนเคยมีรายได้ พอเจอโควิดรายได้ลดลงไปจนถึงไม่มีรายได้ ดังนั้นโครงการจึงช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวชุมชนได้ดีทีเดียว

สำหรับการดูแลกล้าไม้ คุณดวงพรรณ เล่าว่า มีการแบ่งโซนกันดูแล มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชน แต่ละโซนจะมีหัวหน้าชุด  ถ้ามีปัญหาอะไรจะประสานงานมาที่ส่วนกลาง ก็จะส่งคนเข้าไปช่วยดูแลแก้ปัญหากันอย่างทั่วถึง

“โครงการนี้ช่วยเหลือชุมชนมากกว่า 100 ครอบครัว ในสามเดือนนี้ทำให้คนในชุมชนมีรายได้  และหลังจากนี้อีกกว่า 100 ครอบครัวก็จะมีรายได้จากการที่นำไม้ผลไปปลูก พอมีผลผลิต  นำมาแปรปลูก และนำไปจำหน่ายก็จะมีการเพิ่มรายได้ให้ชุมชนต่อไปเรื่อย ๆ ก็ต้องขอขอบคุณซีพีที่มีโครงการดี ๆ แบบนี้ให้ชุมชนในช่วงวิกฤตโควิด”

ชุมชนบ้านห้วยใหญ่ เป็นหนึ่งในสามพื้นที่น้ำร่องของโครงการ “ซีพีร้อยรักษ์โลก” ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนชาวชุมชน เพื่อ “สร้างงาน” “สร้างรายได้” และ “สร้างความสุข” ให้เกิดขึ้นในชุมชน เพื่อให้พวกเขาก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 ไปให้ได้