“โลตัส” ลุยธุรกิจกาแฟเปิดตัว 2 แบรนด์คาเฟ่ใหม่ Jungle Café – Arabitia กาแฟคุณภาพแน่นๆ ราคาเบาๆ

ตลาดกาแฟในไทยพัฒนาไปไกล และผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจในเครื่องดื่มกาแฟมากขึ้น โดยเฉพาะความนิยมบริโภคกาแฟสดนอกบ้าน เพราะไม่ใช่แค่ตอบโจทย์ Refreshing เท่านั้น แต่ยังดื่มด่ำกับคุณภาพเมล็ดกาแฟ อโรม่าของกาแฟ และรสชาติ ทำให้ใครหลายคนหลงใหล และกลายเป็นคอกาแฟ

จากความมุ่งมั่นของ  “โลตัส” (Lotus’s)  ในการดูแลลูกค้าให้  “รู้สึกดีดี ทุกวันที่โลตัส”​  ผ่านการจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพสูง  ในราคาที่เอื้อมถึง  พร้อมความสะดวกสบายในการช้อปปิ้ง  ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจ  ประกอบกับเพื่อรองรับเทรนด์การดื่มกาแฟ  และชาในไทย ที่นับวันมีแต่จะเติบโตมากขึ้น “โลตัส” จึงได้ Diversify สู่การพัฒนาธุรกิจคาเฟ่ ด้วยการสร้าง 2 แบรนด์คือ Jungle Café” (จังเกิลคาเฟ่) และ Arabitia” (อราบิเทีย)​ 

 

6 ปัจจัยดันร้านคาเฟ่โต

จากมูลค่าตลาดรวมกาแฟในไทยกว่า 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดกาแฟในบ้านกว่า 33,000 ล้านบาท และกาแฟนอกบ้านกว่า 27,000 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าตลาดกาแฟนอกบ้าน โดยมีเซ็กเมนต์หลักอย่าง “ร้านกาแฟ” ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้มีมูลค่าตลาดใกล้เคียงกับตลาดกาแฟในบ้านแล้ว และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

เนื่องจากปัจจุบันคนไทยบริโภคกาแฟ โดยเฉลี่ย 1.2 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือ 300 แก้วต่อคนต่อปี ยังถือว่าอยู่ในอัตราไม่สูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่น เช่น คนญี่ปุ่นบริโภคกาแฟ 3 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือ 400 แก้วต่อคนต่อปี ส่วนคนยุโรปบริโภคกาแฟอยู่ที่ประมาณ 4 – 5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือ 600 แก้วต่อคนต่อปี ดังนั้นธุรกิจกาแฟยังมีช่องว่างอีกมหาศาล

ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ธุรกิจคาเฟ่เติบโต มาจาก 6 ปัจจัยประกอบกันคือ

1. การขยายตัวของสังคมเมือง (Urbanization) ทำให้ไลฟ์สไตล์คนไทยใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น และมีวิถีชีวิตเร่งรีบ จึงต้องการความสะดวกสบาย สินค้า-บริการที่ตอบโจทย์ความรวดเร็ว เช่น การซื้อแบบ Grab & Go หรือ To Go

2. การเพิ่มขึ้นของธุรกิจคาเฟ่ และทำราคาให้เข้าถึงง่าย ทำให้การบริโภคกาแฟสด และเครื่องดื่ม Non-coffee ต่างๆ เช่น ชา ช็อคโกแลต กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยไปแล้ว

3. เมื่อธุรกิจร้านกาแฟมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ ทำให้ผู้บริโภคไทยมีความรู้ความเข้าใจการดื่มกาแฟมากขึ้น โดยบางคนมีความรู้ความเข้าใจลงลึกระดับ Seed to Cup คือ ศึกษาตั้งแต่แหล่งปลูกกาแฟ กระบวนการคั่วกาแฟ ไปจนถึงออกมาเป็นเมนูกาแฟต่างๆ

4. การพัฒนาสูตรเครื่องดื่ม ทั้งกลุ่มเมนูกาแฟ และ Non-coffee หลากหลายเมนู เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า

5. คนไทยเริ่มต้นดื่มกาแฟตั้งแต่อายุน้อยลง มีจำนวนเพิ่มขึ้น

6. การเติบโตของบริการแพลตฟอร์ม Food Delivery กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางการเข้าถึงกาแฟสด รวมถึงเครื่องดื่ม Non-coffee ต่างๆ ได้สะดวกขึ้น

การพัฒนาธุรกิจคาเฟ่ของโลตัส ด้วยการเปิดตัวสองแบรนด์ที่ต่างมีจุดยืนที่โดดเด่น คือ แบรนด์ “Jungle Café” จำหน่ายในสาขาขนาดกลาง และเล็ก “โลตัส โก เฟรช” (Lotus’s go fresh) ขณะที่แบรนด์ “Arabitia” จำหน่ายในสาขาขนาดใหญ่ (Lotus’s) เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ และยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ทั้งที่มาจับจ่ายใช้สอยในสาขา และบริการจัดส่ง

โดยทั้งสองแบรนด์คาเฟ่ ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีหลากหลายเมนู ทั้งกาแฟ ชา ช็อคโกแลต เครื่องดื่มต่างๆ จำหน่ายในราคาที่เอื้อมถึงได้ นอกจากนั้นยังมีเบเกอรี่ที่อบสดทุกวัน และเมนูข้าวกล่องปรุงใหม่วันต่อวัน จำหน่ายอีกด้วย” ดร. นริศ ธรรมเกื้อกูล ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มโลตัสส์ เอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นประเทศจีน ให้สัมภาษณ์ถึงการพัฒนาธุรกิจใหม่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค

ทำความรู้จัก “Jungle Café” ร้านกาแฟคู่ชุมชน

สำหรับ Jungle Café” เป็นร้านกาแฟรูปแบบ Convenience Store” ให้บริการใน “โลตัส โก เฟรช” (Lotus’s go fresh) กว่า 1,500 สาขาทั่วประเทศ และผ่านแพลตฟอร์ม Food Delivery ต่างๆ

จุดเด่นของ Jungle Café” คือ การรังสรรค์เครื่องดื่มหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ หรือ Non-coffee โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม เพื่อให้เครื่องดื่มทุกแก้ว ทุกเมนูที่ลูกค้าสั่งนั้น ได้ทั้งคุณภาพ และมาตรฐาน ที่สำคัญขายในราคาจับต้องได้

โดยเฉพาะเมนูไฮไลท์ที่เชื่อว่าต้องถูกใจเหล่าคอกาแฟแน่นอนอย่างกาแฟสดของ “Jungle Café” คุณภาพระดับพรีเมียมที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ ตั้งแต่เมล็ดกาแฟที่ผสมผสานความกลมกล่อม ทั้งสายพันธุ์อาราบิก้าและโรบัสต้า ทำให้ได้ทั้งความหอม ละมุน และความเข้มอย่างลงตัว โดยมีให้เลือกหลากหลายเมนูกาแฟ ทั้งรูปแบบร้อน – เย็น และปั่น ในราคาเริ่มต้นเพียง 25 บาทเท่านั้น!

 

หรือใครที่ไม่ใช่สายกาแฟ หรือในบางโมเมนต์อยากดื่มเครื่องดื่มเมนูอื่นบ้าง ที่นอกเหนือจากกาแฟ “Jungle Café” ก็มีให้บริการเช่นกัน โดยเมนูสุดฮิตขายดี คือ “ชานมไต้หวันบุกแบล็คชูการ์” เครื่องดื่มที่ได้ทั้งความหอมของชา รสชาติละมุน เข้ากันได้ดีกับบุกเคี้ยวหนุบหนับอร่อยเพลิน

ไม่เพียงแต่รังสรรค์เครื่องดื่มคุณภาพพรีเมียม ในราคาเข้าถึงง่าย และสะดวกซื้อเท่านั้น “Jungle Café” ยังได้เดินหน้าตอบแทนคืนสู่สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยการต่อยอดแนวคิด Drink More for Forest” โดยจับมือกับ “สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย” ร่วมกันทำโครงการอนุรักษ์สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม

ทำความรู้จัก “Arabitia” ต่างด้วยเมล็ดกาแฟไทยจากแหล่งปลูกชั้นยอดทั่วประเทศ 

Arabitia” อีกหนึ่งแบรนด์คาเฟ่ของโลตัส ออกแบบในสไตล์ Modern Classic ให้บริการในไฮเปอร์มาร์เก็ตโลตัสกว่า 70 สาขา ทั้งในรูปแบบคาเฟ่เต็มรูปแบบ ไปจนถึงเป็นร้านขนาดเล็กที่มีอุปกรณ์เต็มรูปแบบ และ Cloud Kitchen สำหรับสั่งผ่าน Delivery

จุดเด่นของ Arabitia Café” คือ ความหลากหลายของเมนูเครื่องดื่ม และอาหาร โดยทุกเมนูใช้วัตถุดิบระดับซูเปอร์พรีเมียม แต่จำหน่ายในราคาเข้าถึงได้

อย่างเมนูกาแฟของ Arabitia Café” เพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในหลายพื้นที่ให้มีรายได้อย่างยั่งยืน และเพื่อให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มกาแฟคุณภาพระดับซูเปอร์พรีเมียมของไทย จึงได้รับซื้อเมล็ดกาแฟคัดสรรคุณภาพจากหลายแหล่งในประเทศไทย เช่น

– กาแฟน่าน สายพันธุ์ Arabica ปลูกบนพื้นที่กว่า 1,400 ไร่ของป่าต้นน้ำ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ผลผลิตจากโครงการนำมาแปรรูปแบบพิเศษ Honey Process ไม่มีน้ำเสียจากกระบวนการ ไม่สร้างผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม

– กาแฟปางขอนสายพันธุ์ Arabica ปลูกโดยวิสาหกิจชุมชนบนดอยสูงเหนือระดับน้ำทะเล โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริบ้านปางขอน จังหวัดเชียงราย

– กาแฟดอยช้าง เฮราโมน ซึ่งหมายถึง “ความสามัคคี” ในภาษาของชนเผ่าอาข่า ปลูกโดยวิถีภูมิปัญญาชนเผ่าอาข่าบนบ้านดอยช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะที่สุดของการปลูกกาแฟในประเทศไทย ดินมีความอุดมสมบูรณ์ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,300 – 1,500 เมตร มีความชุ่มชื้นตลอดทั้งปี ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ตั้งแต่กระบวนการเพาะกล้าจนถึงกระบวนการคั่ว ได้รับรางวัลชนะเลิศโล่พระราชทานจากการประกวดสารกาแฟประจำปี พ.ศ. 2561 ของจังหวัดเชียงราย

– กาแฟไล่โว่ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรทำงานอนุรักษ์ผืนป่า พร้อมพัฒนาการปลูกกาแฟ Robusta ของกลุ่มไปเป็นกาแฟอินทรีย์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเมล็ดกาแฟ

– กาแฟทีลอซู Arabica ออร์แกนิก จากความร่วมมือของมูลนิธิสืบนาคะเสถียรและชุมชนใกล้เคียง เพื่อหันมาปลูกกาแฟออร์แกนิกใต้ร่มเงาผืนป่า แทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยวและการใช้สารเคมี

นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ยังมีเมนูอาหารที่หลากหลายเมนู ทั้งเบเกอรี่ และอาหารพร้อมรับประทาน ตอบโจทย์ทั้งมื้อหลัก และมื้อรอง โดยลูกค้าสามารถมาซื้อได้ที่ร้านสาขา หรือจะสั่งผ่าน Food Delivery ก็มีเช่นกัน และยังมีบริการจัดเลี้ยง (Catering) สำหรับโอกาสต่างๆ เช่น ชุดอาหารว่างสำหรับการประชุม ชุดอาหารกลางวัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและหน่วยงานต่างๆ

จะเห็นได้ว่าการพัฒนาแบรนด์คาเฟ่ Jungle Café” และ “Arabitia” ตอกย้ำถึง Purpose การดำเนินธุรกิจของโลตัส ที่มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ “ความรู้สึกดีดีทุกวันที่โลตัส”​ ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการคุณภาพพรีเมียม จำหน่ายในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ผ่านช่องทางการให้บริการทั้งโลตัสทั่วประเทศ และ Delivery

ดังนั้นไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหน จะ Work From Home อยู่ที่บ้าน หรือเข้าออฟฟิศ หรือเดินทาง ก็ดื่มด่ำกับกาแฟหอมๆ รสชาติกลมกล่อม หรือเครื่องดื่มต่างๆ ในอีกหลากหลายเมนูของทั้ง Jungle Café และ Arabitia ได้ทุกวัน