คุณณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data กล่าวว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งให้ทุกคนคุ้นชินกับการใช้เทคโนโลยีและเชื่อมโลกออนไลน์เข้ากับออฟไลน์แบบไร้รอยต่อส่งผลให้มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเกิดขึ้นในทุกวินาที
ในขณะที่ธุรกิจต้องการความเร็วในการนำข้อมูลไปปรับใช้เพื่อครองใจลูกค้า ซึ่งข้อมูลมหาศาล หรือ Big Data เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค สามารถคาดการณ์ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นและแก้ไขได้ทันท่วงที สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งเพิ่มประสบการณ์ที่ดีจากการให้บริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า สอดคล้องกับข้อมูลจาก Forrester Research พบว่าธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านรายได้มากกว่าบริษัทที่ไม่เน้นการใช้ข้อมูลถึง 58%
โดยมี 5 เทรนด์ของ Big Data ในปี 2565 ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับกลยุทธ์ต่าง ๆ ขององค์กร ดังนี้
1. Real-Time Data การวิเคราะห์ข้อมูลและใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มความเร็วในการนำข้อมูลไปปรับใช้สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจต่าง ๆ และสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล โดยใช้ Big Data มาช่วยวิเคราะห์ความต้องการและพฤติกรรมเชิงลึกของลูกค้า เพื่อแนะนำสินค้า บริการ หรือโปรโมชันให้ตรงกับความสนใจของลูกค้าแบบเจาะจงรายบุคคล รวดเร็ว ทันเทรนด์ในช่วงเวลาและช่องทางที่เหมาะสม ซึ่งการที่สามารถวิเคราะห์และปรับใช้ Big Data ได้แบบ Real-Time จะช่วยส่งเสริมการขายให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการซื้อมากยิ่งขึ้น
2. การนำ Big Data มาเสริมเฟรมเวิร์กในระบบ Cybersecurity & Risk ธุรกิจและผู้คนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจและอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตมากขึ้น
3. การใช้ Big Data เพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ Omni-Channel Customer Experience การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน เป็นยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า จึงเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ โดยองค์กรจะต้องพัฒนาการสร้างประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) ให้ดีตลอด Customer Life Cycle เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่
4. ปีสำหรับการเปลี่ยนเทคโนโลยีจัดการข้อมูลแบบเก่าเป็น Big Data เพื่อลดค่าใช้จ่ายทางด้านสารสนเทศให้กับองค์กร การจัดการและประมวลผลข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีแบบดั้งเดิม ที่องค์กรอาจมีใช้งานเป็นปกติอยู่แล้ว อาทิ การสร้างข้อมูลรายงานการขายประจำวัน การดูรายงานคงคลังประจำเดือนจากระบบฐานข้อมูลปกติ ซึ่งปัจจุบันเมื่อข้อมูลเริ่มมีขนาดใหญ่ และจัดเก็บอยู่ในหลายระบบ จึงทำให้เกิดค่าใช้จ่ายรวมถึงค่าดูแลรักษาระบบจัดการข้อมูลแบบเดิมที่ค่อนข้างสูง
5. Data Citizen คือคอนเซ็ปต์ที่ทำให้ทุกคนในองค์กรสามารถใช้ Data ในการวิเคราะห์และตัดสินใจได้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับผู้บริหารจนถึงระดับปฏิบัติการ โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตามสิทธิ์การใช้งาน ซึ่งเครื่องมือที่จะสามารถสนับสนุนแนวคิดนี้ให้เป็นจริงได้ ก็คือ Big Data ที่รวบรวมข้อมูลไว้เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงและใช้งานข้อมูลได้ง่ายดาย ถึงแม้ไม่มีความรู้ทางด้านเทคนิค
อย่างไรก็ดี Big Data คือหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในทุกสถานการณ์ องค์กรและธุรกิจต่างเล็งเห็นความสำคัญ แต่ในหลายองค์กรยังมีข้อจำกัดมากมายในการบริหารจัดการ Big Data ให้มีประสิทธิภาพจนสามารถนำไปใช้ได้จริง ส่งผลให้องค์กรและธุรกิจมองหาเครื่องมือบริหารจัดการ Big Data ที่ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว เข้าไปแก้ข้อจำกัดขององค์กรและธุรกิจ
Blendata-Enterprise คือ Effortless และ Simplified Big Data Platform ที่ตอบโจทย์ทุกขั้นตอนในการบริหารจัดการ Big Data ตั้งแต่การรวบรวม จัดการ ประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล จนถึงการนำข้อมูลไปใช้ในที่เดียวแบบ All-in-one ในแบบ Code-free พร้อมประสิทธิภาพในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่แบบ Real-Time ช่วยเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจพร้อมสำหรับทุกการแข่งขันด้วยเวลาที่รวดเร็ว ลดเวลาและลดความซับซ้อนในการเข้าถึงข้อมูล
“แม้ผู้ใช้งานไม่มีความรู้ด้าน IT หรือ Big Data ช่วยให้องค์กรลดการลงทุนทางด้านบุคลากรเทคนิคเฉพาะด้าน ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ไลเซนส์ และการบำรุงรักษา ด้วยการรวบรวมทุกฟังก์ชันในการจัดการ Big Data ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว อีกทั้งยังสามารถนำข้อมูล Big Data ที่มีอยู่ในมือไปต่อยอดเพื่อยกระดับธุรกิจในด้านอื่น ๆ ได้อย่างอิสระและรวดเร็ว” คุณณัฐนภัส กล่าว
ที่มา โพสต์ทูเดย์