คุณภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ ผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศ ขณะนี้ต้องยอมรับว่า ภาพไม่ได้ปรับตัวดีขึ้นเหมือนอย่างที่คาดหวังไว้ เนื่องจากการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงอยู่ รวมถึงเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันรวมการตรวจเอทีเคแล้ว อยู่ประมาณ 4 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูง และสร้างความกังวลใจมาก ทำให้แนวโน้มช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในเดือนเมษายน 2565 ไม่ได้ดีเหมือนที่คาดไว้ โดยภาพในปีนี้ จะเป็นเหมือนปี 2564 อีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้เราเห็นการยกเลิกการจองล่วงหน้าแล้วกว่า 80% และเป็นการยกเลิกทั้งเดือนเมษายน เพราะไม่มั่นใจการระบาดโควิด-19 และอยากขอรอดูความชัดเจนของเงื่อนไขต่างๆ ก่อน
“ตอนนี้สงกรานต์ไม่ต้องพูดถึงแล้ว รู้ชะตากรรมแล้วว่าคงไม่ได้คึกคักมากเท่าใดนัก เพราะยังมีโอมิครอนอยู่ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจไม่ดี น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูง จึงมีการตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นออก ทำให้การเดินทางน้อยลงมาก คนส่วนใหญ่ระมัดระวังตัว เพราะพูดจริงๆ โควิด-19 คนยังกลัวน้อยกว่าปัญหาเศรษฐกิจ ที่หากคนไม่มีเงินก็ไปเที่ยวไม่ได้”
คุณภูริวัจน์กล่าวว่า เมื่อพ้นเดือนเมษายนนี้ จะเป็นหน้าฝน ซึ่งปกติถือเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวน้อยอยู่แล้ว การท่องเที่ยวในประเทศก็จะหายไปอีกอย่างน้อย 1 ไตรมาส หรือ 3 เดือน ที่การเดินทางทรงตัวต่ำๆ แบบนี้ เพราะที่ผ่านมาเดิมเราเห็นในช่วงเดือนมีนาคม เริ่มมีการจองเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ แต่เมื่อยอดติดเชื้อพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็เห็นการยกเลิกการจองจนหมด ลากยาวไปถึงเดือนเมษายนนี้ ทั้งเดือนด้วย ทำให้การท่องเที่ยวในประเทศ ยังคาดหวังว่าจะเห็นความคึกคักได้อีกครั้งในช่วงปลายปี 2565 รอบปลายฝนต้นหนาว หรือไตรมาสสุดท้ายของปีเลย
คุณภูริวัจน์กล่าวว่า สำหรับตลาดต่างประเทศยังไม่ได้คิดไว้เลยว่าจะกลับมาดีขึ้น และคาดหวังได้มากน้อยเท่าใด เพราะคนไทยก็ยังกลัวอยู่ รวมถึงหลายประเทศก็เปิดประเทศท่องเที่ยวมากขึ้น มีตัวเลือกสูง รวมถึงเงื่อนไขการเข้าประเทศก็น้อย ทำให้แม้มีความต้องการ (ดีมานด์) ในการมาเที่ยวไทย แต่หากเงื่อนไขยังไม่เอื้ออำนวยมากนัก ประเมินว่าตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจต้องรอฟื้นตัวอีกทีในปี 2566 ทีเดียว
คุณภูริวัจน์กล่าวว่า ตอนนี้อยากให้รัฐบาลเตรียมมาตรการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก ทำอย่างต่อเนื่อง และทำมากที่สุด เพราะการคาดหวังนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังทำได้ค่อนข้างน้อย โดยรูปแบบมาตรการหรือโครงการกระตุ้น อยากให้ออกมาในรูปแบบการส่งเสริมเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยว เหมือนโครงการทัวร์เที่ยวไทย แต่อยากให้เงื่อนไขต่างๆ ในการใช้บริการทั้งส่วนของประชาชนและผู้ประกอบการเอื้ออำนวยมากกว่านี้ เพราะทัวร์เที่ยวไทย ถือว่าช่วยต่อลมหายใจผู้ประกอบการได้ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากขั้นตอนและเงื่อนไขค่อนข้างยุ่งยากเกินไป
ที่มา มติชน