ธอส. ออกโครงการ “ปรับเงินงวด” ให้ลูกค้าปรับเงินงวดตามความสามารถผ่อนชำระ นาน 3 ปี ครอบคลุมลูกค้าที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการได้ไม่น้อยกว่า 3 แสนบัญชี/ต่อเดือน
วันที่ 18 เมษายน 2565 นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการช่วยให้ลูกค้าปัจจุบันของธนาคารสามารถปรับเงินงวดให้เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระ ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” จึงได้จัดทำโครงการ “ธอส. ปรับเงินงวด” (Amortization Management) เพื่อปรับเงินงวดให้เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองในปัจจุบันเป็นระยะเวลา
3 ปี
ทั้งนี้ ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติตามที่ธนาคารกำหนด อาทิ 1.ไม่อยู่ในสถานะกฎหมาย 2.ไม่อยู่ระหว่างใช้มาตรการสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากโควิด-19 หรือมาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ ของธนาคาร 3.อยู่ในช่วงอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (MRR – 0.50 , MRR – 1.00% หรือ MRR เป็นต้น) 4.เงินต้นคงเหลือไม่น้อยกว่า 100,000 บาท
5.กู้มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และระยะเวลากู้คงเหลือไม่น้อยกว่า 10 ปี และ 6.หากเข้าร่วมโครงการแล้วเงินงวดต้องลดลงต่ำกว่า 200 บาทต่อบัญชี เป็นต้น ซึ่งธนาคารจะคำนวณเงินงวดใหม่ในช่วง 3 ปีที่เข้าร่วมโครงการ โดยใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของลูกค้าที่ใช้อยู่ ณ ปัจจุบัน จำนวนเงินต้นคงเหลือ ณ ปัจจุบัน และระยะเวลาการผ่อนชำระที่เหลืออยู่ตามสัญญาเดิม
ทำให้สามารถปรับเงินงวดให้ลูกค้าในระหว่างเข้าร่วมโครงการได้เพราะวงเงินกู้ที่นำมาคำนวณเงินงวดมีจำนวนน้อยลงกว่าวงเงินกู้ตอนทำสัญญาครั้งแรก และเป็นเงินงวดใหม่ที่ธนาคารได้คำนวณเผื่อกรณีอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นในอนาคต 1.00% ไว้แล้ว โดยลูกค้าไม่ต้องขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการปรับเงินงวด แต่ ธอส. ยังเปิดให้ลูกค้าสามารถชำระเงินงวดในจำนวนที่สูงกว่าเงินงวดใหม่ที่ธนาคารกำหนดได้ในระหว่างเข้าร่วมโครงการอีกด้วย โดยปัจจุบันมีลูกค้าของธนาคารที่มีคุณสมบัติที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ไม่น้อยกว่า 3 แสนบัญชี/ต่อเดือน เงินต้นคงเหลือรวมไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการและสามารถ
ผ่อนชำระได้ดีตามจำนวนเงินงวดใหม่และภายในเวลาที่ธนาคารกำหนด ลูกค้าจะยังถือว่ามีสถานะบัญชีปกติเช่นเดิม
สำหรับลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “ธอส. ปรับเงินงวด” สามารถลงทะเบียนได้ผ่าน Mobile Application : GHB ALL หรือเว็บไซต์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ www.ghbank.co.th หรือ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน – 25 ธันวาคม 2565
โดยธนาคารจะนำรายชื่อลูกค้าที่ลงทะเบียนภายในวันที่ 25 ของแต่ละเดือน มาพิจารณาคุณสมบัติ และหากตรงตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ธนาคารจะดำเนินการเปลี่ยนเงินงวดใหม่ให้ลูกค้าได้ในเดือนถัดไป
“ธนาคารจะทำการ Update ข้อมูลลูกค้าที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการภายในไม่เกินวันที่ 10 ของเดือน เป็นประจำทุกเดือน ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ที่ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL และ www.ghbank.co.th “
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ