ภาพโดย Dominik & Frederike Schneider จาก Pixabay
เกิดอะไรขึ้น:
ตั้งแต่ต้นปีราคาสินค้าเกษตรและโลหะพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากสงครามรัสเซียและยูเครน ทำให้ห่วงโซ่อุปทานชะงักงัน แต่เดือนมิถุนายน 2022 ราคาสินค้าทางการเกษตร (ยกเว้นเนื้อสัตว์) และโลหะเริ่มปรับลง จากแรงขายทำกำไรหลังราคาขึ้นไปทำนิวไฮ อีกทั้งยังกังวลเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังธนาคารกลางหลายประเทศส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดของจีนเพื่อคุมโควิด ซึ่งจะกระทบต่อกิจกรรมการผลิตและอุปสงค์ให้ชะลอตัว
ส่วนฝั่งอุปทานดูดีขึ้นในหลายประเทศที่เป็นผู้ผลิตหลัก เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ซึ่งคาดว่าจะช่วยชดเชยผลผลิตของยูเครนที่หายไปได้ อีกทั้งล่าสุด ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เผยว่า รัสเซียพร้อมส่งออกข้าวสาลี พลังงาน ปุ๋ย และสินค้าทางการเกษตรอื่นๆ สู่ตลาดโลก ทำให้ช่วงสั้นคาดราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะยังอยู่ในทิศทางขาลง
ยกเว้นแต่เกิดปัญหาภัยแล้งเฉียบพลันในพื้นที่เพาะปลูกซึ่งกระทบต่อปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดโลก จึงจะผลักดันให้ราคาสินค้ากลับมาดีดตัวขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ในส่วนราคาเนื้อสัตว์ (สุกร ไก่) ในประเทศคาดยังยืนในระดับสูงจากอุปทานตึงตัวและอุปสงค์ที่ยังแข็งแกร่ง
ด้านสถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจากความตึงตัวอุปทาน ขณะที่อุปสงค์เร่งตัวขึ้นจากการกลับมาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ราคาพลังงานทุกประเภทเร่งตัวขึ้นอีกในเดือนกุมภาพันธ์ หลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกพลังงานทั้งน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน รายใหญ่ของโลก นำไปสู่การทยอยคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกจากสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 เดือน
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันและถ่านหินเริ่มชะลอตัวลงจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย จะนำไปสู่อุปสงค์ที่ลดลง ส่วนราคาก๊าซในสหรัฐฯ ลดลงเป็นผลจากท่า LNG ในเมือง Freeport สหรัฐฯ เกิดไฟไหม้ ทำให้เกิดภาวะอุปทานส่วนเกินในสหรัฐฯ แต่กลับผลักดันราคาก๊าซในยุโรป และราคา LNG พุ่งสูงขึ้น นอกจากนั้นการลดส่งก๊าซของรัสเซียมายังยุโรปยังเป็นอีกเหตุผลหนุนราคาก๊าซ วิกฤตพลังงานยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในยุโรป รวมถึงบางประเทศใน EM
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ (SETSTEEL) ปรับลดลง 9.21%MoM ราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน (SETENERG) ปรับลดลง 5.60%MoM และราคาหุ้นกลุ่มอาหาร (SETFOOD) ปรับตัวลดลง 0.99%MoM ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 4.55%MoM
กลยุทธ์การลงทุน:
SCBS แนะนำหุ้นเด่นสำหรับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตราคาพลังงานและอาหารที่พุ่งสูงขึ้น ดังนี้
- หุ้นเด่นจากสถานการณ์สินค้าเกษตรและโลหะ เลือก CBG และ OSP ซึ่งคาดราคาหุ้นและกำไรจะอยู่ในทิศทางขาขึ้นตั้งแต่ 2H22 แรงหนุนจากการมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ยอดขายส่งออกดีขึ้น และได้อานิสงส์บวกจากราคาอะลูมิเนียมลดลงช่วยหนุนมาร์จิ้นดีขึ้น
ขณะที่แนะนำเพิ่มความระมัดระวังสำหรับหุ้นกลุ่มปาล์ม เช่น UVAN, UPOIC, VPO, CPI ที่คาดได้ผลกระทบเชิงลบจากราคาปาล์มอยู่ในทิศทางขาลง หลังปัญหาอุปทานขาดแคลนคลี่คลายลง
- หุ้นเด่นจากสถานการณ์พลังงาน เลือก PTTEP และ BCP จากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q22 ยังเติบโตเด่น จากราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มตลาดพลังงานที่ยังตึงตัว ขณะที่แนะนำระมัดระวังการลงทุนสำหรับหุ้นกลุ่มที่ใช้เชื้อเพลิงเป็นต้นทุน ได้แก่ โรงไฟฟ้า SPP เนื่องจากผลประกอบการยังถูกกดดันจากราคา LNG ที่เพิ่มขึ้น
ที่มา THE STANDARD