สวัสดีครับพี่น้องผองเพื่อนชาวซีพี วันเวลาเดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของปีแล้ว ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรงกันนะครับ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเราคงจะได้มีโอกาสรับทราบถึงเหตุการณ์สำคัญของประเทศที่เครือซีพีของพวกเรามีส่วนต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ นั่นคือการลงนามเซ็นสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบินระหว่างเครือฯกับการรถไฟฯที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันพฤหัสฯที่ 24 ตุลาคม
ต้องถือว่าวันนั้นเป็นเหตุการณ์สำคัญถือเป็นประวัติศาสตร์ของชาติเพราะย้อนไปเมื่อ100กว่าปีที่ผ่านมา เมืองไทยมีรถไฟที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมด้านการขนส่งเป็นครั้งแรกที่ในหลวงรัชกาลที่5ทรงได้ริเริ่มทำให้คนไทยมีรถไฟใช้สามารถเดินทางไกลได้สะดวกรวดเร็วในเวลานั้นมาจนถึงปัจจุบัน ครั้งนี้ถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนของเมืองไทยที่เราจะมีนวัตกรรมด้านขนส่งเป็นรถไฟความเร็วสูงสายแรกของเมืองไทย
จากที่ผมติดตามดูข่าวสารภายหลังจากการลงนามเซ็นสัญญาถือเป็นเรื่องที่ดีที่เสียงตอบรับดี ทั้งสื่อเก่า สื่อใหม่ต่างนำเสนอไปในทางเดียวกันคือการเกิดของรถไฟความเร็วสูงจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอีกมากมาย จะเกิดการเติบโตของเมืองใหม่ เกิดการพัฒนาที่อยู่อาศัย ย่านการค้า การลงทุน เกิดการจ้างงาน รวมทั้งประเทศไทยจะได้มีโอกาสใช้และเรียนรู้เทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนของโลก
ขนาดว่าคุณเปลว สีเงิน คอลัมน์นิสต์ดังของเมืองไทยและอีกหลายคอลัมนิสต์บนสื่อต่างปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ถึงบทบาทของภาคเอกชนไทยหรือบรรดาทุนไทยว่าโครงการนี้ถือเป็นการเข้ามมามีบทบาทของทุนไทย และโครงการนี้แจ้งเกิดแน่เพราะแม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมาย แต่บรรดาผู้รับผิดชอบโครงการขนาดใหญ่นี้ล้วนเป็นตระกูลดัง รวมทั้งซีพีคงไม่กล้าทิ้งงาน หรือทำให้โครงการไม่สำเร็จเพราะโครงการนี้ถือเป็นเดิมพันชื่อเสียงเกียรติยศ
ที่น่าสนใจคุณเปลว สีเงินยังบอกว่าหากมีโครงการขนาดใหญ่แล้วทุนไทย ภาคเอกชนไทยเอาเงินมาลงทุนเพื่อบ้านเมืองก็ต้องยินดีและคงต้องเลิกอิจฉาคนรวย เพราะรวยแล้วเอาเงินมาลงทุนเพื่อบ้านเมืองดีกว่าไปลงทุนแล้วบ้านเมืองไม่ได้ประโยชน์
ขณะที่นายกรัฐมนตรีที่มาเป็นสักขีพยานการเซ็นสัญญาท่านยังบอกกับพี่น้องคนไทยว่าขอให้เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะสำเร็จ แม้จะมีปัญหาอุปสรรค โครงการนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ของบ้านเมือง เช่นเดียวกับที่ท่านประธานอาวุโสเคยพูดไว้ว่าโครงการนี้ถือเป็นมิติใหม่ของภูมิภาคอาเซียน เป็นจุดเปลี่ยนให้ประเทศก้าวต่อไป แม้จะต้องพบกับปัญหา
ผมอยากชวนชาวซีพีเชื่อมั่นในการตัดสินใจของผู้บริหารเครือฯในการตัดสินใจทำโครงการนี้และร่วมกันให้การสนับสนุนทั้งทางตรงทางอ้อม ให้โครงการนี้ดำเนินการได้สำเร็จตามแผน เพราะผมจำได้ตอนที่เครือฯทำโครงการติดตั้งโทรศัพท์2.6 ล้านเลขหมายในกรุงเทพและปริมณฑล เครือฯต้องเผชิญกับปัญหามากมาย แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับเหมา คู่ค้า หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชนก็ช่วยกันจนโครงการประสบความสำเร็จส่งผลให้คนไทยเข้าถึงการสื่อสาร โทรคมนาคมมาจนถึงวันนี้ ผมก็เชื่อว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงนี้ เครือฯมีประสบการณ์ บทเรียน จะสามารถแก้ปัญหา จัดการกับอุปสรรคต่างๆไปได้ เพื่อคนไทยรวมทั้งพวกเราจะได้มีโอกาสใช้บริการหรือได้รับประโยชน์จากการพัฒนาที่จะตามมา