เมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นของจีนได้ประกาศให้เมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นหนึ่งในมหานครของจีนและเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน กลับมาใช้ชีวิตตามปกติหลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจนถึงระดับที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ เมืองเฉิงตูถูกล็อกดาวน์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด และเป็นไปตามนโยบาย Zero-COVID อันเป็นนโยบายหลักจากผู้นำประเทศอย่าง สีจิ้นผิง โดยเริ่มต้นคำสั่งจากรัฐบาลท้องถิ่นให้ล็อกดาวน์เฉิงตูเป็นเวลาสั้นๆ ราว 1 สัปดาห์ จากนั้นมีการประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ (ประกาศวันที่ 8 กันยายน) อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งกลายเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจและตลาดหุ้นของจีนอยู่ระยะหนึ่ง
โดยตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 กันยายนนี้ เมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากร 21 ล้านคน จะกลับมาดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามปกติอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน บริษัทเอกชน และสถานที่สาธารณะ เช่น ร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ประชากรในพื้นที่ยังคงต้องตรวจโควิดอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ และต้องแสดงผลตรวจภายใน 72 ชั่วโมงที่เป็นลบ หากต้องการเข้าไปทำกิจกรรมในสถานที่สาธารณะและใช้บริการขนส่งสาธารณะ
ทั้งนี้ การล็อกดาวน์เฉิงตูเป็นหนึ่งในการเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำสองทศวรรษ ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม โดยสีจิ้นผิงคาดว่าจะครองตำแหน่งผู้นำสูงสุดเป็นสมัยที่ 3 ซึ่งคำปราศรัยเปิดงานของเขาจะถูกจับตามองเพื่อหาสัญญาณว่าจีนจะเปลี่ยนจากการพยายามกำจัดโควิดไปเป็นการใช้ชีวิตเหมือนอย่างประเทศอื่นๆ ในโลกหรือไม่
อ้างอิง:
ที่มา THE STANDARD WEALTH