ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยบริษัทไทยติดอันดับด้านความยั่งยืนใน The Sustainability Yearbook 2023 จากการประกาศผลของ S&P Global จำนวน 37 บริษัท โดยในจำนวนนี้มีบริษัทไทยได้รับการจัดอันดับในระดับ Gold Class 12 บริษัท มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก สะท้อนการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและตอกย้ำความเชื่อมั่นในสายตาผู้ลงทุนทั่วโลก
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนธุรกิจให้บูรณาการแนวทางความยั่งยืนในการดำเนินงาน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจและประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนไทยเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยจำนวนมากอยู่ในดัชนีความยั่งยืนระดับสากลทั้ง MSCI, FTSE และ S&P Global อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดทุนเพื่อทุกภาคส่วน “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone”
“ล่าสุด การประกาศ The Sustainability Yearbook 2023 โดย S&P Global บริษัทไทยได้รับการจัดอันดับในระดับ Gold Class จำนวน 12 บริษัทได้แก่ AWC, BJC, BTS, HMPRO, PTTGC, SCC, SCGP, TOP, TRUEE, TU, VGI และ ThaiBev ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก สะท้อนถึงความโดดเด่นของธุรกิจไทยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันจากทั่วโลก ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอชื่นชมความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนไทย ทั้งนี้ S&P Global เป็นผู้จัดทำดัชนีที่ผู้ลงทุนทั่วโลกใช้ในการวิเคราะห์และพิจารณาตัดสินใจลงทุน การได้รับจัดอันดับจะสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทำให้บริษัทอยู่ในสายตาของผู้ลงทุนทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมี 5 บริษัทจดทะเบียนไทยที่เป็น Industry Mover คือมีพัฒนาการโดดเด่น มีคะแนนการประเมินความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งได้แก่ AWC, CRC, SCGP, VGI และ WHA ด้วย” นายภากรกล่าว
ทั้งนี้ S&P Global ได้ประเมินความยั่งยืนบริษัททั่วโลก 7,822 บริษัท โดยมี 710 บริษัทที่ได้รับการประกาศใน The Sustainability Yearbook 2023 ในจำนวนนี้เป็นบริษัทไทย 37 บริษัทซึ่งมากเป็นอันดับ 5 ของโลก การประกาศยังแบ่งการจัดอันดับเป็น 4 ระดับ ได้แก่ Gold, Silver, Bronze และ Member โดยระดับ Gold Class มีบริษัทไทย 12 บริษัท ลำดับที่สองคือสหรัฐอเมริกา 11 บริษัท ลำดับสามคือไต้หวันและอิตาลี 7 บริษัท
- 41 บริษัทไทยติดอันดับด้านความยั่งยืนระดับโลก S&P Global มากสุดอันดับ 4 ของโลก
ในปีนี้ S&P Global ได้เพิ่มเกณฑ์การคัดกรองด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้นสอดคล้องกับแนวทางการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ โดยจะไม่ประกาศรายชื่อบริษัทในอุตสาหกรรมยาสูบ (Tobacco) และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงที่มาจากถ่านหิน (Coal & Consumable Fuel) ใน The Sustainability Yearbook 2023 ทั้งนี้ รายชื่อบริษัทดังกล่าวจะถูกนำไปคัดเลือกเพื่อเข้าสู่ดัชนีด้านความยั่งยืนต่างๆ ของ S&P Global ทั้ง Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) และ S&P ESG Index Family ต่อไป
รายชื่อบริษัทไทยที่ติดอันดับด้านความยั่งยืน (S&P Global Sustainability Awards)
- ระดับ Gold Class จำนวน 12 บริษัท
1) บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC)
2) บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC)
3) บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)
4) บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO)
5) บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC)
6) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)
7) บมจ. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP)
8) บมจ. ไทยออยล์ (TOP)
9) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUEE)
10) บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (TU)
11) บมจ. วีจีไอ จำกัด (VGI)
12) บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ(ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
- ระดับ Silver Class จำนวน 7 บริษัท
1) บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC)
2) บมจ. ซีพี ออลล์ จำกัด (CPALL)
3) บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF)
4) บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
5) บมจ. เอสซีบี เอกซ์ (SCB)
6) บจ. เครือเจริญโภคภัณฑ์*
7) บจ. น้ำตาลมิตรผล(ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
- ระดับ Bronze Class จำนวน 4 บริษัท
1) บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT)
2) บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM)
3) บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC)
4) บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT)
- ระดับ Member จำนวน 14 บริษัท
1) บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
2) บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS)
3) บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN)
4) บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC)
5) บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA)
6) บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL)
7) บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB)
8) บมจ. สยามแม็คโคร (MAKRO)
9) บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR)
10) บมจ. ปตท. (PTT)
11) บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)
12) บมจ. ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)
13) บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA)
14) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT)
เกณฑ์คัดเลือกบริษัทในการจัดอันดับ Gold, Silver, Bronze และ Member
S&P Global จัดลำดับบริษัทตามกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งหมด 61 อุตสาหกรรมและประกาศรายชื่อบริษัทที่ติดอันดับของทุกอุตสาหกรรมโดยใช้เกณฑ์ดังนี้
Gold: มีคะแนน ESG อยู่ใน 1% ของคะแนนสูงสุดของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรม และมีคะแนนขั้นต่ำ 60 คะแนน
Silver: มีคะแนน ESG อยู่ใน 1%-5% ของคะแนนสูงสุดของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมและมีคะแนนขั้นต่ำ 57 คะแนน
Bronze: มีคะแนน ESG อยู่ใน 5%-10% ของคะแนนสูงสุดของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมและมีคะแนนขั้นต่ำ 54 คะแนน
Member: มีคะแนน ESG อยู่ใน 30% ของคะแนนสูงสุดของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมและมีลำดับอยู่ใน Top 15% ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรม
Industry Mover: มีคะแนน ESG เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนหน้าและมีลำดับอยู่ใน Top 15% ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.spglobal.com/esg/csa/yearbook
ที่มา ไทยพับลิก้า