‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ เผยกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอีมาแรง รับตลาดท่องเที่ยวโต

ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ที่มีสาขาเปิดให้บริการในไทยรวมกว่า 13,838 สาขา ได้ประกาศแผนในปี 2566 จะเปิดสาขาใหม่ รวมประมาณ 700 สาขา โดยนอกจากแผนการขยายสาขาเพื่อสร้างการเติบโตของยอดขายแล้ว

บริษัทยังได้วางเป้าหมายในการเพิ่มสินค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอีเพื่อรองรับตลาดท่องเที่ยวเติบโตที่มีการประเมินว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 จะเติบโตถึง 20-25 ล้านคน

เทรนด์การท่องเที่ยวที่เติบโตทำให้ เซเว่น อีเลฟเว่น ได้วางแผนการปรับสาขาในสนามบิน ให้เพิ่มกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอีให้มากขึ้น โดยจะปรับสาขาที่เป็นแฟลกชิฟ (Flagship) ที่อยู่ในสาขาสนามบินต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปแบบของ Shelf SME รวบรวมของฝากและของที่ระลึก ต่างๆ ให้ครบวงจร พร้อมกับการปรับสาขาของ SME Shelf ในบางสาขาให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่

พร้อมกันนี้ได้มีการดึง “แจ็คสัน หวัง” ศิลปินเคป๊อประดับโลกมาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งแรก เพื่อร่วมเชิญชวนให้คนไทยและนักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยว และลิ้มลอง รสชาติอาหารไทย พร้อมร่วมกระตุ้นให้พลังซอฟต์พาวเวอร์ ของไทยสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ในปัจจุบัน เซเว่น อีเลฟเว่น มีเมนูอาหารทั้งกลุ่มอาหารคาว หวาน รวมกว่า 200 เมนู รวมถึงมีสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เซเว่น อีเลฟเว่น ให้การสนับสนุนรวมกว่า 1,000 รายการ

คุณยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า บริษัทได้มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยมาโดยตลอด ทำให้ในปัจจุบันมีกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอี ที่ขายในเซเว่น อีเลฟเว่น และ All Online รวมกว่า 8,000 รายการ

ทั้งนี้จากการประเมินกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอีกลุ่มที่ขายดีในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ 1.กลุ่มผลไม้ และขนมหวาน 2. กลุ่มสแน็ค และ 3. กลุ่มเครื่องดื่ม โดยกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอีได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่ดีมาต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน จากแนวโน้มกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอีที่มีแนวโน้มเติบโตดี ทำให้บริษัทได้วางแผนเปิด SME Shelf เพิ่มขึ้น 1,700 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 5,800 สาขา รวมถึงได้มีการเปิด “ศูนย์ 7-Eleven สนับสนุน SME” ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาธารา สแควร์ โดยวางเป้าหมายให้เป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อร่วมพัฒนาผู้ประกอบการให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ที่มา ซีพี ออลล์