มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท จัดค่ายเสริมทักษะและการเรียนรู้ สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนแก่เด็กและเยาวชนภายใต้โครงการครอบครัวอุปการะในชุมชนวัฒนธรรม เพื่อปลูกฝังความรู้และฝึกทักษะในการดำรงชีวิต ควบคู่ไปกับการตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อมุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนได้เปิดโลกทัศน์ เสริมสร้างจินตนาการ และสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้เกิดการวางแผนและเป้าหมายในการดำเนินชีวิต ตลอดจนสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้ไปต่อยอดเป็นอาชีพในอนาคต โดยมีเด็กและเยาวชนในโครงการครอบครัวอุปการะเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 15 คน ณ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร และศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ฯ ผนึกกำลังร่วมกับศูนย์เรียนรู้และฝึกอบรมนานาชาติ ด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ตามแนวพระราชดำริ อย่างยั่งยืน โดยมี นายกฤตยรัฐ ปารมี ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายปฏิบัติการเพื่อสังคม ด้านบริหารกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้กล่าวเปิดกิจกรรมในครั้งนี้
“เป็นโอกาสที่ดี ที่น้องๆ จากโครงการครอบครัวอุปการะฯ ได้มาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นอกห้องเรียน เพราะทุกกิจกรรมน้องๆ จะได้ลงมือทำ สัมผัส ได้ยิน และได้เห็นด้วยตาตัวเอง สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างทักษะ จินตนาการ และเพิ่มพูนประสบการณ์การเรียนรู้ หวังว่าทุกคนจะมีความสุข สนุกสนาน และนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ หรือเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตต่อไปในอนาต”
โดยกิจกรรมทั้งหมดมุ่งเน้นเพิ่มพูนทักษะ และการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการฝึกทักษะด้านงานหัตถกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมดังนี้ ผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ, กิจกรรมทำพวงกุญแจ Flora Resin , กิจกรรมการเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชาย และการฟื้นฟูป่าชายเลนตามพระราชดำริ, และกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำสู่ท้องทะเล ปลูกฝังแนวคิดด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อันเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญของประเทศชาติที่ทุกคนควรตระหนักรู้และมีส่วนร่วมในการฟื้นฟู ปกป้องดูแล
ขณะเดียวกันเด็กและเยาวชนจากครอบครัวอุปการะฯ ยังได้เดินทางไป ศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร ภายใต้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชบุรี เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิชาชีพด้านการทำเกษตร ได้ลงมือปฎิบัติ และเรียนรู้วิถีเกษตรทฤษฎีใหม่ด้วยตัวเอง ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การรีดนมแพะ การเลี้ยงแพะ, การเพาะเลี้ยงไส้เดือน, การปลูกผัก และทำปุ๋ย, และการประกอบอาหาร
ทั้งนี้การจัดค่ายตลอดระยะเวลา 4 วันที่ผ่านมา ทำให้เด็กและเยาวชนโครงการครอบครัวอุปการะฯ ได้เกิดการเรียนรู้และฝึกทักษะนอกห้องเรียนอย่างแท้จริง ถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า และจะเป็นประโยชน์ให้แก่เด็ก ๆ ไม่มากก็น้อยต่อไปในอนาคต
มากกว่าการมอบโอกาสให้เด็กกำพร้า ได้มีครอบครัวที่อบอุ่น คอยอบรมเลี้ยงดูด้วยความรัก และได้รับการศึกษาตามขั้นพื้นฐานแล้ว มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ยังมุ่งเน้นเสริมสร้างทักษะการเอาตัวรอดให้แก่เยาวชน พร้อมที่จะเติบโตไปเป็นคนดีของสังคม อันมีจิตใจเป็นสาธารณะ กลับมาพัฒนาครอบครัว ชุมชน และสังคม ให้มีความยั่งยืนต่อไปในอนาคต อีกด้วย