จีนแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 1 ของโลก / WTO ผลักดันปฏิรูปห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกลดปัญหาการพึ่งพาในบางประเทศ / ความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวันอาจฉุดรั้งการเลือกตั้งในสหรัฐฯปี 2567

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เทคโนโลยี

จีนแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 1 ของโลก

  • จากการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า EV ในไตรมาสแรกปีนี้เข้าตีตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อดีตญี่ปุ่นเป็นผู้ครองตลาดนี้ ส่งผลให้จีนได้กลายเป็นผู้ส่งออกรถยนต์มากที่สุดของโลก
  • อัตราการส่งออกรถยนต์ของจีนในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมเพิ่มขึ้น 58% ขณะที่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 6% เทียบกับปีก่อนหน้า โดยรถ EV ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของการส่งออกรถยนต์โดยรวมของจีน
  • จีนมีข้อได้เปรียบในด้านต้นทุนโดยเฉพาะวัสดุสำคัญต่อการผลิตแบตเตอรี่ที่ครองส่วนแบ่งถึง 80%
  • ตั้งแต่ปี 2009 จีนได้แซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นเป็นตลาดรถยนต์ใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในปี 2022 จีนได้แซงหน้าเยอรมนีเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก (เดอะแสตนดาร์ด)

การค้าโลก

WTO ผลักดันปฏิรูปห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกลดปัญหาการพึ่งพาในบางประเทศ

  • ผู้อำนวยการใหญ่ WTO เรียกร้องให้มีการกระจายความหลากหลายในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เกิดการผลิตและพึ่งพาที่มากเกินไปในบางภาคส่วน อย่างปัญหาคอขวดขาดแคลนชิปช่วงโควิด-19
  • การปฏิรูปครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการออกกฎหมายล่าสุดของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการกระจายตัวของการค้าโลกที่อาจเกิดขึ้น กฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นกฎหมายสีเขียวที่ครอบคลุมทั้งกฎหมายด้านภาษี สุขภาพ และสภาพอากาศ
  • การค้าตะวันตกกับจีนก็ถูกจับตามอง แม้ว่าการประชุมผู้นำ G-7 เมื่อวันเสาร์จะย้ำชัดเจนว่าพวกเขาไม่ได้ขัดขวางความก้าวหน้าของจีน แต่ต้องพึงตระหนักดีว่าความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจลดการพึ่งพาที่มากเกินไป
  • WTO  ถูกกำหนดให้จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งต่อไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 (ซีเอ็นบีซี)

การเมืองโลก

ความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวันอาจฉุดรั้งการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ปี 2567

  • ความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในไต้หวันทำให้ผู้นำทางธุรกิจที่มีอิทธิพลอย่าง Elon Musk และ Warren Buffett ส่งเสียงเตือนเกี่ยวกับการบุกรุกที่อาจเกิดขึ้น จีนกลายเป็นประเด็นหลักในการรณรงค์หาเสียงของสหรัฐฯ และปักกิ่งเพิ่มความเป็นปรปักษ์กับไต้หวัน สีกำลังกดดันให้กองทัพจีนเตรียมพร้อมยึดไต้หวันภายในปี 2570
  • เมื่อเดือนที่แล้ว Teslaได้ประกาศแผนการเปิดโรงงานแห่งใหม่ในเซี่ยงไฮ้ มีความเชื่อมโยงกับ Berkshire Hathawayของ Buffett เปิดเผยในการยื่นฟ้องว่าได้ทิ้งการถือหุ้น TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีมูลค่ามากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์
  • DeSantis ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพรรครีพับลิกันได้เยือนเอเชียรวมถึงไต้หวันพบปะผู้นำพันธมิตร และมองว่านโยบายของสหรัฐฯ ต่อไต้หวันกลับคลุมเครือมากกว่าสงครามของรัสเซียยูเครน
  • ผู้นำ G-7ให้คำมั่นที่จะคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมอย่างไรก็ตาม มีความพยายามที่จะกระจายอุตสาหกรรมรวมถึงการลงทุน 4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อขยายการผลิตชิป TSMC ในรัฐแอริโซนา (ซีเอ็นบีซี)