น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาว่าตั้งแต่ต้นปีถึง ณ วันที่ 25 มิ.ย. 66 นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เดินทางมายังประเทศไทยแล้ว 12.46 ล้านคน เพิ่มขึ้น 539% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประเทศใน 5 ลำดับแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยมากที่สุด ได้แก่ มาเลเซีย 1.98 ล้านคน, จีน 1.38 ล้านคน, รัสเซีย 7.84 แสนคน, เกาหลีใต้ 7.41 แสนคน และ อินเดีย 7.32 แสนคน ตามลำดับ
การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวสอดคล้องกับสถานการณ์ด้านการบินตามรายงานของบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. ว่าในช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ (ต.ค.65-พ.ค.66) มีผู้เดินทางระหว่างประเทศ(รวมขาเข้า-ออก) ผ่านท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่, แม่ฟ้าหลวง, เชียงราย, ภูเก็ต และ หาดใหญ่ รวม 34.31 ล้านคน เพิ่มขึ้น 635.7% และมีเที่ยวบินระหว่างประเทศบินเข้า-ออกทั้งสิ้น 202,700 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 175.2%
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กระทรวงการคลัง ระบุว่าการขยายตัวที่ต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย กำลังเป็นแรงสนับสนุนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจในขณะนี้
“ภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงสนับสนุนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ ชดเชยการส่งออกที่ยังต้องเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจการเงินโลก นายกรัฐมนตรีจึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันดูแลปัจจัยที่อาจกระทบต่อการท่องเที่ยวได้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่ยังเป็นอุปสรรคปัญหาในการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ความเชื่อมั่น ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามและให้การสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการแก้ไขในประเด็นที่อาจยังทำให้เกิดความไม่สะดวกแก่นักท่องเที่ยว อาทิ ในเรื่องของระบบการตรวจลงตรา หรือวีซ่าที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้สะท้อนข้อคิดเห็นให้มีการแก้ไขให้เกิดความรวดเร็วขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้ทราบว่าขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเพิ่มความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือผลักดันให้ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นไปตามเป้าหมายที่ 25 ล้านคน
ล่าสุด ททท. ยังคงประเมินว่าปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไปไทยจะเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่นักท่องเที่ยวจากจีนจะอยู่ที่ 5 ล้านคนตามที่คาดการณ์ ซึ่งในเดือน ก.ค.นี้ ททท. จะร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เปิดใช้ระบบ Visa Prescreening System หรือ VPSS เพื่อเพิ่มความเร็วในการขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวภายใต้ของกระทรวงการต่างประเทศกำหนด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์