นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกรกฎาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติที่ขยายตัวได้ในทุกภูมิภาค อีกทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดีในภาคใต้ และภาคเหนือ
*ภาคใต้
ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดี อีกทั้งความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัว 4.0% ต่อปี เช่นเดียวกับการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัว 4.8% และ 16.7% ต่อปี ตามลำดับ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 52.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า และรายได้เกษตรกรชะลอตัว -20.7 ต่อปี แต่ขยายตัว 5.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว -26.2% ต่อปี แต่ขยายตัว 2.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ขณะที่จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 90.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัว 73.3% และ 39.0% ต่อปี
*ภาคเหนือ
ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ อีกทั้งความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัว 13.7% ต่อปี เช่นเดียวกับการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัว 17.5% และ 14.7% ต่อปี ตามลำดับ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 57.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า และรายได้เกษตรกรชะลอตัว
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 19.5% ต่อปี ขณะที่รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว สำหรับเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมีมูลค่า 1,051.9 ล้านบาท ขยายตัว 299.3% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลในจังหวัดสุโขทัย เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ส่วนเครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัว 9.7% และ 36.4% ต่อปี ตามลำดับ
*ภาคตะวันออก
ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน และรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 8.0% ต่อปี แต่ชะลอตัว -1.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกับจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัว 17.4% ต่อปี แต่ชะลอตัว -0.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และรายได้เกษตรกรขยายตัว 30.7% ต่อปี แต่ชะลอตัว -2.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ชะลอตัว สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 58.6 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ ชะลอตัว -10.4% ต่อปี แต่ขยายตัว 5.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว อย่างไรก็ตามเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมีมูลค่า 1,763.4 ล้านบาท ขยายตัว 58.8% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตและจำหน่าย ชิ้นส่วนรถยนต์ ในจังหวัดระยอง เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 84.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า สำหรับเครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ขยายตัว 62.3% และ 118.5% ต่อปี ตามลำดับ
*ภาคกลาง
การบริโภคภาคเอกชนหมวดสินค้าคงทนขยายตัวได้ ในขณะที่ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัว 15.0% ต่อปี ส่วนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว -1.0% และ -0.5% ต่อปี แต่ขยายตัว 2.3% และ 5.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.2 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.0 และรายได้เกษตรกรชะลอตัว
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 5.5% ต่อปี แต่ชะลอตัว -11.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว -15.5% ต่อปี แต่ขยายตัว 10.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่วนเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 93.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 98.7 ส่วนเครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ 6.8% และ 18.1 ต่อปี ตามลำดับ
*ภาคตะวันตก
การบริโภคภาคเอกชนหมวดสินค้าคงทนขยายตัวได้ ในขณะที่ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัว 18.8 ต่อปี จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 25.9 ต่อปี แต่ชะลอตัว -2.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่วนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่และรายได้เกษตรกรชะลอตัว ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.2 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจาก จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว -11.5 ต่อปี แต่ขยายตัว 14.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 13.9% ต่อปี เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมีมูลค่า 399.1 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 93.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 98.7 สำหรับเครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ 27.8% และ 26.6% ต่อปี ตามลำดับ
*กทม. และปริมณฑล
การบริโภคภาคเอกชนหมวดสินค้าคงทนขยายตัวได้ ในขณะที่ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัว 20.0% ต่อปี เช่นเดียวกับจำนวนรถยนต์นั่ง
จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรขยายตัว 16.8% และ 1.3% ต่อปี แต่ชะลอตัว -4.3% และ -0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ชะลอตัว ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 55.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.1
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจาก จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 9.6% ต่อปี แต่ชะลอตัว -4.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่วนจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว -19.0% ต่อปี แต่ขยายตัว 1.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมีมูลค่า 1,521.8 ล้านบาท ขยายตัว 90.7% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตอุปกรณ์ระบบเครื่องปรับอากาศและสุขภัณฑ์ ในจังหวัดปทุมธานี เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 93.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 98.7 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัว 39.8% และ 84.2% ต่อปี ตามลำดับ
*ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 59.1 ลดลง
จากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 59.7 อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกร และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัว 3.1% และ 0.1% ต่อปี ตามลำดับ
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว ขณะที่เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมูลค่า 635.1 ล้านบาท ขยายตัว 63.0% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตและซ่อมบำรุงถังก๊าซหุงต้มสำหรับครัวเรือน ในจังหวัดขอนแก่น เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 94.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 97.0 ส่วนเครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัว 22.1% และ 27.9% ต่อปี ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์