เซเว่นอีเลฟเว่น เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง สาขาเพิ่ม 13,000 แห่งภายในปี 2564 เร่งเจรจา 7-Eleven, Inc. ขอสิทธิทำธุรกิจในลาว หลังได้สิทธิ์ไฟกัมพูชา

ตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แม้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้ธุรกิจหลาย ๆ อย่างต้องชะลอหรือพับแผนการลงทุนต่างๆ ลง เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา แต่ล่าสุด จากการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2563 ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศแผนและเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องตามแผนเดิมที่วางไว้

เดินหน้าลงทุนไม่หวั่นพิษโควิด
คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ แม้ว่าการระบาดของโรคโควิด-19 จะกระทบผลประกอบการของบริษัททั้งด้านต้นทุนและยอดขายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และรุนแรงขึ้นในเดือนมีนาคม เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ตามความกังวลในภาระหนี้ครัวเรือน รวมถึงมาตรการควบคุมการระบาดของทางการ

อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปบริษัทยังคงเดินหน้าแผนลงทุนตามแผนเดิมที่วางไว้ โดยจะลงทุน 11,500-12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนเปิดร้านใหม่ประมาณ 700 สาขา โดยจะใช้งบฯ 3,800-4,000 ล้านบาท การปรับปรุงสาขาเดิม 2,400-2,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังจะมีการลงทุนในโครงการใหม่ การลงทุนบริษัทย่อย และศูนย์กระจายสินค้า รวมประมาณ 4,000-4,100 ล้านบาท รวมถึงแผนลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและเทคโนโลยีสารสนเทศรวมอีกประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท

โดยช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายสาขาร้านเซเว่นอีเลฟเว่นไปแล้ว 271 สาขา แบ่งเป็นสาขาของบริษัท 186 สาขา และสาขาพาร์ตเนอร์ และสาขาที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 85 สาขา ทำให้มีสาขารวม 11,983 สาขา โดยบริษัทมีเป้าจะขยายสาขาให้ครบ 13,000 สาขา ภายในปี 2564

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ซีพี ออลล์ ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 82,885 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 2,112 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.6 อย่างไรก็ตาม ยอดขายเฉลี่ยของร้านเดิมลดลงเท่ากับร้อยละ 4.0 เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน เท่ากับ 78,872 บาท ยอดซื้อต่อบิลโดยประมาณเท่ากับ 70 บาท ในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 1,122 คน ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากมาตรการควบคุมการระบาดของโรคจากรัฐบาล อาทิ จำกัดการเดินทาง การขอความร่วมมือให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย

เจรจาบริษัทแม่ขอบุกลาว
คุณก่อศักดิ์ยังกล่าวถึงการลงทุนในกัมพูชาว่า หลังจากที่ CP ALL (Cambodia) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เข้าทำสัญญาแฟรนไชส์หลัก สำหรับดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา กับ 7-Eleven, Inc. เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ แต่ยังไม่สามารถเดินหน้าได้ เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริหารและทีมงานไม่สามารถเดินทางเข้าไปในกัมพูชาได้ ทั้งนี้ CP ALL (Cambodia) Co., Ltd. ได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการจัดตั้งและดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา เป็นเวลา 30 ปี และคู่สัญญาอาจตกลงต่ออายุสัญญาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 20 ปี

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ 7-Eleven, Inc. เพื่อขยายสาขาไปยังประเทศลาวด้วย เช่นเดียวกับการเข้าซื้อกิจการห้างค้าปลีกเทสโก้ โลตัสในไทย และเทสโก้ในประเทศมาเลเซีย ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการปิดสัญญา เช่น รอการอนุมัติจากหน่วยงานด้านการค้าในแต่ละประเทศ

ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ