เมื่อเร็วๆนี้ Boston Consulting Group หรือ BCG ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยผลการศึกษาผู้บริโภคใน 20 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จะเป็น New Normal ใหม่ของโลก ซึ่งหนึ่งในเทรนด์สำคัญคือ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของช่องทางออนไลน์ และความนิยมใช้บริการร้านค้าปลีกขนาดเล็กมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ BCG ระบุว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคกว่า 35,000 คนใน 20 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 พบ 5 พฤติกรรมผู้บริโภคที่มีผลอย่างชัดเจน คือ 1) ผู้บริโภคอยู่กับบ้าน และมีการ Work from Home มากขึ้น แม้ว่าจะมีการลดข้อบังคับแล้วก็ตาม 2) การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของช่องทางออนไลน์ 3) ผู้บริโภคมีการตัดค่าใช้จ่ายฟุ้มเฟือยต่างๆ 4) ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อเรื่องสุขภาพเป็นอย่างมาก มีลัษณะ Health is the New Wealth และ 5) แม้ว่าผู้บริโภคจะใช้บริการร้านค้าปลีกน้อยลงโดยรวม แต่ร้านค้าขนาดเล็กได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคต้องการหลีกเลี่ยงคนจำนวนมาก
โดยผลสำรวจของ BCG ได้ระบุถึง “ความแตกต่างของร้านค้าปลีกขนาดเล็ก” ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า 2 ประเภท คือ ร้านสะดวกซื้อ กับ ร้านมินิมาร์ท โดยร้านค้าทั้ง 2 ประเภทนั้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน
สำหรับ ร้านสะดวกซื้อ อาทิ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และแฟมิลี่มาร์ท จะเน้นสินค้าที่สามารถบริโภคหรือใช้ได้ทันที ในขณะที่ มินิมาร์ท อาทิ มินิบิ๊กซี หรือ เทสโก้เอกซ์เพรส จะเน้นสินค้าที่ผู้บริโภคมักเก็บไว้ใช้ระหว่างสัปดาห์ หรือเติมของใช้ในครัวเรือน และส่วนผสมที่หมดระหว่างสัปดาห์ และมักขายในราคาที่ถูกกว่า หรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจ
โดย BCG รายงานว่า ได้ทำการศึกษากับกลุ่มตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าร้านค้าปลีกขนาดเล็กทั้ง 2 ประเภทนี้ตอบโจทย์ผูบริโภคที่แตกต่างกัน
ในรายงานการสำรวจของ BCG ยังชี้ให้เห็นว่า จากการวิจัยกับผู้บริโภคกว่า 1,000 ราย และพูดคุยกับผู้ให้บริการ กว่า 80% ของกลุ่มตัวอย่างได้ไปซื้อของที่ร้านค้าปลีกอย่างน้อย 1 ครั้ง ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใช้บริการจะไม่ไปร้านมินิมาร์ท แต่ในทางกลับกันผู้ที่ใช้บริการร้านมินิมาร์ทแทบทุกคนก็ยังไปใช้บริการร้านสะดวกซื้อร่วมด้วย อย่างไรก็ตามพบว่า ผู้บริโภคมีทัศนคติต่อร้านค้าทั้งสองประเภทแตกต่างกัน
โดย ร้านสะดวกซื้อ จะเน้นที่ตั้งที่ใกล้ชิดแหล่งชุมชน เข้าถึงได้ง่าย ผู้บริโภคเข้าใช้บริการด้วยสาเหตุอยู่ใกล้บ้าน สะดวกสบาย และไม่ต้องเข้าคิวชำระสินค้านานเหมือนกับการซื้อของในห้างขนาดใหญ่ ส่วน ร้านมินิมาร์ท ผู้บริโภคจะเน้นความหลากหลายของสินค้า ราคา และโปรโมชั่นต่างๆ
BCG รายงานผลการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง เมื่อถามถึงแบรนด์มินิมาร์ทและร้านสะดวกซื้อที่นึกถึงเป็นอันดับต้นๆ ในส่วนของ มินิมาร์ท คือ มินิบิ๊กซี, เทสโก้ โลกตัส เอกซ์เพรส ขณะที่ร้านสะดวกซื้อ คือ เซเว่น อีเลฟเว่น
สำหรับเหตุผลในการไปใช้บริการร้านค้าต่างๆ ผู้บริโภคที่เลือกเข้ามินิมาร์ท จะเน้นซื้อของสด เก็บตุนของสด หรือซื้อไปกักตุนไว้ที่บ้าน เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรือน้ำยาซักผ้า เป็นต้น ส่วนการเข้าใช้บริการร้านสะดวกซื้อจะเน้นซื้อของแห้งจำนวนน้อยๆ หรือของที่จะบริโภคได้ทันที หรือใช้งานทันที เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมกล่อง ขนม เป็นต้น
ในรายงานผลการศึกษานี้ BCG สรุปว่าในอนาคตจะยิ่งเห็นความแตกต่างของร้านค้าสองประเภทนี้ในทุกกลุ่มลูกค้า โดยเชื่อว่าร้านค้าปลีกขนาดเล็กจะมีความสำคัญกับผู้บริโภคมากขึ้นและในยุคที่เทคโนโลยีมีผลต่อการดำเนินชีวิตทุกคนก็เป็นที่น่าสนใจว่า ผู้ประกอบการจะนำเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับปรุงร้านค้าต่อไปได้อย่างไรเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกอันรวดเร็ว