สวัสดีครับพี่น้องชาวซีพีที่รัก ท่ามกลางข่าวงานมงคลเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน คนไทยต้องกลับมาโศกเศร้าอีกครั้งกับการสูญเสียพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมาทำให้หลายคนสุดเสียดายเนื่องจากพลเอกเปรมที่ทุกคนคุ้นเคยกับคำว่า”ป๋าเปรม”ได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนไทย โดยเฉพาะในเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต การยึดมั่นในคุณงามความดี การรู้จักตอบแทนคุณแผ่นดิน
คุณูปการที่”ป๋าเปรม”ทำไว้ให้กับประเทศชาติมีมากมายที่จะกล่าวถึง แต่สิ่งที่ผมอยากเล่าเมื่อครั้งมีโอกาสเคยเข้าไปฟังผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ร่วมประชุมกับ”ป๋าเปรม”เมื่อหลายปีก่อน เมื่อครั้งที่”ป๋าเปรม”เคยเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของเครือฯ “ป๋าเปรม”เป็นนายทหารที่มีความคิดก้าวหน้า ทันสมัยและเห็นคนทุกภาคส่วนมีความสำคัญต่อบ้านเมือง
สมัยที่”ป๋าเปรม”ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี หลายคนไม่เชื่อว่าท่านจะนำพาเศรษฐกิจของประเทศที่ย่ำแย่ให้กลับโชติช่วงแข็งแกร่ง เพราะคิดว่าท่านเป็นทหารจะรู้เรื่องการบริหารประเทศ การบริหารเศรษฐกิจอย่างไร แต่”ป๋าเปรม”กลับบริหารประเทศให้ก้าวหน้าเติบโตด้วยหลักการบริหารที่ให้ความสำคัญกับความรู้ ทางวิชาการ ท่านดึงนักวิชาการจากสภาพัฒน์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยมาช่วยทำงาน ท่านเป็นนักการทหารที่บัญญัติคำว่า”การเมืองนำการทหาร” จนทำให้บ้านเมืองไทยที่ล่อแหลมจากความคิดเห็นที่แตกต่างกัน จับอาวุธขึ้นมาสู้กันเองจนออกนโยบายที่เรียกว่า66/2523 ทำให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ความสงบ และ”ป๋าเปรม”คนนี้แหละที่เริ่มแนวคิดการประชุมร่วมของภาครัฐ เอกชนหรือเรียกว่ากรอ. ทำให้ภาครัฐ เอกชนและภาคส่วนต่างๆผนึกกำลังกันในการแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง
ผมจึงไม่แปลกใจที่ภาคเอกชนเวลานั้นเรียนเชิญท่านมาเป็นประธานกิตติมศักดิ์ เพราะท่านเป็นไอดอลของความสำเร็จ เป็นไอดอลของการทำเพื่อชาติ บ้านเมือง สถาบันสูงสุดของชาติ เป็นไอดอลของคุณธรรมความซื่อสัตย์ เครือซีพีตระหนักถึงคุณูปการของท่านจึงได้มีโอกาสนำเรียนถึงแนวคิด แนวทาง สิ่งที่เครือซีพีขับเคลื่อนให้กับประเทศ โดยท่านให้ความเมตตากับคณะผู้บริหารเครือฯ ให้คำแนะนำในการดำเนินกิจการ
ผมยังเคยได้ยิน”ป๋าเปรม”สอนหลายๆเรื่องเช่นการรู้จักตอบแทนคุณแผ่นดิน เรื่องของความรับผิดชอบสังคม การแนะนำให้เครือซีพีทำโครงการเพื่อช่วยเหลือ แก้ปัญหาคนยากจน ความยากจนของประเทศ แม้แต่เรื่องของการทำธุรกิจท่านเคยให้แนวคิดที่ผมประทับใจคือ”แข่งขันฉันท์มิตร”คือการแข่งขันที่ไม่ทำร้ายคู่แข่ง แต่แข่งกันเพื่อสร้างที่ดีๆให้กับสังคมไทย ไม่เพียงเท่านั้นท่านยังเป็นต้นทางความคิดโดยมีท่านประธานอาวุโสและผู้บริหารระดับสูงนำมาเป็นแนวทางของซีพีเช่นการตอบแทนคุณแผ่นดินที่ท่านประธานอาวุโสพูดเน้นย้ำกับคนซีพีเสมอมา ทำให้เครือซีพีตระหนักในบทบาทของภาคเอกชนที่มีต่อสังคมไทย เครือซีพีจึงได้ทำโครงการสนับสนุน”ป๋าเปรม”มากมายหลายโครงการ เช่นการแก้ปัญหาความยากจนของพี่น้องชาวปากรอในจังหวัดสงขลา เป็นต้น
น่าเสียดายที่ภายหลัง”ป๋าเปรม”ไม่ได้เข้ามาเพื่อฟังผู้บริหารและพนักงานเครือฯเล่าถึงโครงการต่างๆเพราะมีคนไม่เข้าใจเจตนารมย์ของท่าน โดยเข้าใจผิดว่าท่านมารับตำแหน่งในภาคเอกชนไม่เหมาะสม ท่านจึงตัดปัญหานี้ แต่กระนั้นก็ตามผู้บริหารเครือฯไม่เคยลืมบุญคุณของท่าน คำสอน คำแนะนำของท่านและวันเกิดของ”ป๋าเปรม”ทุกปี ผู้บริหารเครือฯจะพากันไปกราบเคารพเสมอมา
แม้วันนี้”ป๋าเปรม”จะจากไปแต่ผู้บริหารและพนักงานซีพียังคงระลึกถึงท่านเสมอและยังคงยึดมั่นท่านเป็นแบบอย่างของความซื่อสัตย์ การคิดถึงบ้านเมือง ความรับผิดชอบสังคม การเป็นองค์กรที่มีส่วนช่วยชาติ บ้านเมือง
ผมจึงอยากเชิญชวนชาวซีพีได้พร้อมใจกันแต่งกายไว้ทุกข์ท่านเพื่อร่วมแสดงความคารวะและไว้อาลัย เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.ถึงวันที่ 17 มิ.ย.(ยกเว้นวันที่ 3 มิ.ย.) รวม 21 วัน ร่วมกันทำบุญอุทิศให้ท่าน นำข้อคิดคำสอนของท่านมาเป็นแนวทางดำเนินชีวิตและการทำงานนะครับ