สวัสดีครับพี่น้องซีพีที่รักเจอหลายท่านบอกตั้งแต่เปลี่ยนหน้าตาเว็บไซท์wearecp.comบอกยังไม่ค่อยคุ้นเคยเมื่อเทียบกับของเดิม แต่ข้อดีก็ทำให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ทุกที่ ทุกเวลา ครับ ก็ขอน้อมรับความคิดเห็นกัน
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสรับข้อมูลข่าวสารจากกิจการต่างๆในเครือซีพีมีข่าวน่าสนใจมากมายหลายเรื่องทั้งเรื่องของการดำเนินธุรกิจและด้านความรับผิดชอบสังคม ซึ่งเป็นเรื่องดีที่เครือซีพีให้ความสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันมากขึ้น
แต่ข่าวที่ผมคิดว่าสำคัญและชาวซีพีมีคำถามอยู่ในใจเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเพราะถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ ใช้เงินลงทุนมหาศาลและมีคำถามจากสังคมมากมายว่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนและเป็นประโยชน์ต่อประเทศจริงหรือหรือแม้แต่เพื่อนๆชาวซีพีก็กังวลใจว่าเงินมหาศาลที่ลงทุนจะส่งผลต่อการดำเนินงานของเครือฯหรือไม่
ผมดีใจแทนชาวซีพีที่ได้รับข่าวมาเป็นคำกล่าวเปิดใจของท่านประธานอาวุโสที่พูดกับคณะผู้บริหารเครือฯในงานสัมมนาวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ครั้งที่ 3/2019 ณ สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ ท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ได้กล่าวเปิดใจและให้ความมั่นใจกับคณะผู้บริหารต่อการที่เครือฯ เข้าไปลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
ท่านประธานอาวุโส กล่าวว่า เครือซีพีกำลังลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ ที่ไม่ใช่ใหม่เฉพาะระดับประเทศ แต่เป็นเรื่องใหม่ในระดับอาเซียน เนื่องจากประเทศต่าง ๆ ในแถบนี้ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ต่างยังไม่มีรถไฟความเร็วสูง ดังนั้น การที่เครือฯ เข้ามาช่วยประเทศลงทุนในโครงการนี้ จะทำให้ประเทศไทยเป็นที่จับตามอง โดยจะเป็นตัวเลือกที่สำคัญในการลงทุนหรือการย้ายฐานการผลิต
“หลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่า ซีพีจะไปรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูง ผมอยากให้มองย้อนกลับไปตอนที่ซีพีนำเซเว่นอีเลฟเว่นเข้ามาเปิดในประเทศไทย ช่วงเวลานั้น ทุกคนต่างทัดทาน แม้กระทั่งเจ้าของเซเว่นอีเลฟเว่นเอง ยังบอกผมว่า รอหน่อยดีไหม เวลายังไม่เหมาะ คุณลงทุนตอนนี้ก็เสี่ยงเกินไป แต่ผมกลับคิดต่างและมองว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องทำและเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งไม่ต่างกับเมื่อ 53 ปีก่อน ตอนที่ผมเริ่มทำเรื่องการเลี้ยงไก่หนึ่งหมื่นตัว มีแต่คนบอกว่าจะเป็นไปได้ยังไง ที่คุณจะเลี้ยงไก่หนึ่งหมื่นตัว แน่นอนว่า ถ้าเราทำเองย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนั้นซีพีไปเรียนรู้จากอเมริกา ซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับประเทศไทย หรือแม้กระทั่งเรื่องการทำธนาคาร ก็ยังไม่มีใครเชื่อว่าจะทำสำเร็จ”
ท่านประธานอาวุโส ยังได้ยกตัวอย่างถึงการที่เครือฯ เข้าไปลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมว่า เวลานั้นหลายคนปรามาสว่า คนเลี้ยงไก่ คิดยังไงจะมาทำโทรศัพท์ ในเรื่องนี้ท่านประธานอาวุโสมองว่า ข้อมูลคืออาหารสมอง ซีพีทำอาหารคน การทำเรื่องของข้อมูลก็คือการทำอาหารสมอง การดูทีวีก็คือการให้อาหารสมอง ใช้อินเทอร์เน็ตก็คืออาหารสมองเช่นกัน
เคล็ดลับอยู่ที่ “การนำเรื่องที่ยากที่สุด มาทำให้ง่ายที่สุด” ในขณะที่คนเก่งทั่วไป มักจะเลือกทำของง่าย ๆ แต่ความลับคือ ในโลกนี้ไม่มีของอะไรที่ทำง่ายแล้วจะประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว แต่ต้องทำเรื่องยาก และต้องเรียนรู้ใหม่ตลอดเวลา เพื่อทำให้เป็นเรื่องง่าย จึงจะสามารถประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ
ท่านประธานธนินท์ กล่าวอีกว่า การที่ซีพีมาทำรถไฟความเร็วสูง ถือเป็นความท้าทาย นับตั้งแต่ทีโออาร์ที่มีความยาก เนื่องจากรัฐบาลได้นำทีโออาร์จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมาเปรียบเทียบ เพื่อหาข้อดีต่าง ๆ มาทำเป็นทีโออาร์ที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย เพราะต้องการให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด จึงยากมากสำหรับเอกชนที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจให้เกิดขึ้นได้จริงอย่างยั่งยืน แต่ซีพีก็ต้องศึกษา นำมาเรียนรู้ ซึ่งป็นอีกครั้งหนึ่งที่เครือฯ ได้ทำเรื่องใหม่
“เมื่อเราเป็นผู้นำ เราต้องสร้างความเปลี่ยนแปลง ต้องกล้าเสี่ยง ถ้าสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร โดยต้องมองให้ทะลุ เท้าต้องติดดิน ที่สำคัญต้องมีความเข้าใจธุรกิจให้ลึกจริง”
ท่านประธานอาวุโส กล่าวด้วยว่า รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสร้างรถไฟมาแล้วสี่พันกิโลเมตร หลังจากนั้นมีการสร้างรถไฟเพิ่มขึ้นอีกเพียงสองร้อยกว่ากิโลเมตร ครั้งนี้จึงถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่จะสานต่อโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ จีนกับญี่ปุ่นจับมือร่วมกันทำรถไฟความเร็วสูงเป็นครั้งแรก จึงถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการช่วยกันคิดช่วยกันทำ ประสานประโยชน์เพื่อแผ่นดินไทย ซีพีทำธุรกิจในประเทศไทย บนแผ่นดินของพระมหากษัตริย์ จึงมีหน้าที่ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ดังนั้นต้องทำโครงการนี้ให้สำเร็จ ไม่ใช่ไปรับมาแล้วทำไม่สำเร็จ ก็จะกลายเป็นภาระของประเทศ เมื่อรับมาแล้ว เราต้องทุ่มเททั้งกำลังกาย จิตใจ มันสมอง ทำให้โครงการนี้สำเร็จให้ได้
และที่พวกเราอยากได้ยินท่านประธานอาวุโสก็ให้คำตอบว่า“การทำรถไฟความเร็วสูงถือว่าอยู่ในงบประมาณที่สามารถบริหารจัดการได้ จะไม่กระทบธุรกิจที่ถืออยู่ การลงทุนในครั้งนี้อยู่ในวิสัยทำได้และผ่านการประเมินแล้ว”
ผมจึงอยากชวนชาวซีพีได้ช่วยกันนำคำเปิดใจของท่านประธานอาวุโสถ่ายทอดให้เพื่อนร่วมงานได้รับทราบรวมทั้งได้บอกกล่าวกับญาติสนิทมิตรสหาย คนที่รู้จักในสังคมได้เข้าใจในวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของเครือซีพีที่ยึดมั่นในค่านิยม”3ประโยชน์” และพวกเราชาวซีพีส่งกำลังใจและสนับสนุนทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ให้เป็นผลสำเร็จแม้จะต้องเผชิญกับปัญหา อุปสรรคในระหว่างการก่อสร้าง