ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการเร่งด่วนด้านพลังงานเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
ทั้งนี้ พิจารณาอนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ใช้จ่ายในวงเงินรวม 6,693.31 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินจากงบประมาณปี 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
สำหรับค่าไฟฟ้าเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 เพื่อให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน โดยให้ กฟน. และ กฟภ. เบิกจ่ายเงินจากสำนักงบประมาณต่อไป
ทิพานันกล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการของมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านไฟฟ้า โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน เป็นเวลา 4 เดือน สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 ส่วนลด 92.04 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย (กลุ่มเปราะบาง) ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน
กลุ่มที่ 2 ส่วนลดค่า Ft แบบขั้นบันไดร้อยละ 15-75 (จำนวน 10.30-51.50 สตางค์ต่อหน่วย) สำหรับกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน
ทั้งนี้ ครม. มีมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 อนุมัติงบกลางปี 2565 ให้ กฟน. และ กฟภ. ใช้จ่ายในวงเงิน 2,231.10 ล้านบาท เพื่อให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าของเดือนกันยายน 2565 ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน
“สำหรับส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าของเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 ที่ทางการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ประมาณการงบประมาณที่ใช้ดำเนินการ 6,693.31 ล้านบาทนั้น ครม. เห็นชอบให้ใช้จ่ายจากงบประมาณกลางปี 2566 โดยจะเบิกจ่ายจากงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ซึ่งทางการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไปด้วย” ทิพานันกล่าวในที่สุด
ที่มา The Standard