เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการในทุกกลุ่มธุรกิจของเครือซีพีทั่วโลกสู่การรับรองในระดับสากล จัดงาน “Toward Excellence: The Next Era of CG” เชิดชูเกียรติบุคคลและองค์กรที่มีความโดดเด่นด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี พร้อมมอบรางวัลยกย่องความเป็นเลิศด้านธรรมาภิบาล ประจำปี 2567 โดยปีนี้เป็นปีแรกที่่มีการมอบรางวัล ESG Corporate Excellence Awards ให้แก่บริษัทจดทะเบียนในเครือฯ ในฐานะองค์กรผู้นำในการขับเคลื่อนเรื่อง ESG ซึ่งมี 2 กลุ่มธุรกิจที่ ที่มี Outstanding Performance จนได้รับรางวัลคือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัล เชิดชูเกียรติ CG Achievement Awards ให้กับ 71 ธุรกิจในเครือฯ ทั้งบริษัทจดทะเบียนและไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาทิ จีน บังคลาเทศ ปากีสถาน มาเลเซีย และเมียนมา โดย คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้เกียรติขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษนำเสนอวิสัยทัศน์และทิศทางของเครือซีพีผ่าน 5 หลักการในการรีโมเดลธุรกิจขับเคลื่อนธรรมาภิบาลสู่เพื่อเป็นการตอกย้ำทิศทางของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการขับเคลื่อนธรรมาภิบาลสู่อนาคต พร้อมมอบรางวัลและกล่าวย้ำถึงความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน สร้างคุณค่าให้แก่ประเทศชาติและสังคม โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ เข้าร่วมแสดงความยินดี และเข้าร่วมรับรางวัลอย่างคับคั่ง อาทิ คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ คุณมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร ทรู ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณธรินทร์ ธนียวัน กรรมการบริษัท และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออลล์ นาว คุณสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอเชีย เอรา วัน คุณพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ผู้อำนวยการสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ ดร.วีระ วีระกุล ประธานคณะผู้บริหาร ฟรีวิลล์ โซลูชั่นส์ คุณเกรกอรี่ ริชาร์ด แฟรงค์ มาร์ติน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สยามแลนด์ ฟลายอิ้ง คุณอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา ประธานคณะกรรมการบริหาร ไวร์เออ แอนด์ ไวร์เลส นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารและเพื่อนพนักงานร่วมแสดงความยินดี งานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุมออดิทอเรียม ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ พร้อมการถ่ายทอดสดไปยังสำนักงานของเครือซีพีทั่วโลก สะท้อนถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการสร้างมาตรฐานธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่ง และร่วมขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคตที่ยั่งยืนอนาคตอย่างยั่งยืน
บรรยากาศงานสุดคึกคัก ตั้งแต่ยังไม่เริ่มพิธีการ หน้าห้องประชุมออดิทอเรียม ทรู ดิจิทัล พาร์ค แน่นขนัดไปด้วยซีอีโอจากหลากหลายบริษัท รวมถึงเครือข่ายสายธรรมาภิบาลที่ทยอยมาร่วมงาน พร้อมแวะถ่ายภาพที่แบ็คดรอปเก็บโมเมนต์กันแบบสนุกสนาน เสียงหัวเราะและรอยยิ้มสร้างบรรยากาศอุ่น ๆ ก่อนเริ่มงานได้เป็นอย่างดี
จากนั้นเข้าสู่ช่วงพิธีการอย่างเป็นทางการ ประเดิมด้วย ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ขึ้นกล่าวถึงภาพรวมการขับเคลื่อนงานด้านธรรมาภิบาล (CG) ตามยุทธศาสตร์ความยั่งยืนของเครือซีพี
ต่อด้วยไฮไลต์สำคัญ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ซีอีโอเครือซีพี ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษ ถ่ายทอดวิสัยทัศน์และทิศทางการรีโมเดลธุรกิจภายใต้ 5 หลักการสำคัญ ขับเคลื่อนธรรมาภิบาลสู่อนาคต พร้อมตอกย้ำเจตนารมณ์ของเครือซีพี ที่มุ่งยกระดับมาตรฐาน CG ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจทั่วโลก เพราะธรรมาภิบาลที่ดีคือรากฐานสำคัญสู่ความยั่งยืน
คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แสดงความยินดีกับผู้บริหารและตัวแทนจากทุกกลุ่มธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ พร้อมทั้งกล่าวถึงความสำคัญของธรรมาภิบาลและความยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด โดยเน้นว่า ทั้งสองเรื่องล้วนเป็นเรื่องของคุณธรรมและจริยธรรม หรือที่เรียกว่า “ความเมตตา” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัยและปรองดอง โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และเป็นการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ซีอีโอศุภชัยระบุว่า การสร้างธรรมาภิบาลที่ดีและการขับเคลื่อนความยั่งยืนจำเป็นต้องเริ่มจาก 5 หลักการสำคัญ ได้แก่ 1. ความโปร่งใสที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการกระตุ้นกลไกตลาดและทำให้ CG แข็งแกร่ง 2. การมองธุรกิจจากมุมมองที่ให้คุณค่าที่ดีที่สุดต่อสังคม 3. การสร้าง Engagement กับกลุ่ม Stakeholder และเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส 4. การเป็นผู้นำที่มีคุณธรรมและจริยธรรมในการขับเคลื่อนองค์กร และ 5. การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น ระบบเอไอ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและลดความเสี่ยง
นอกจากนี้ ซีอีโอศุภชัยยังเน้นย้ำว่า ผู้บริหารในเครือซีพีและบริษัทในเครือต้องปฏิรูปผ่าน 5 หลักการนี้ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและส่งมอบคุณค่าอย่างยั่งยืนให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder) พร้อมย้ำว่าการนำหลักการเหล่านี้ไปใช้จะช่วยให้เครือฯ ขับเคลื่อนความยั่งยืนได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง
ต่อด้วยบรรยากาศการมอบรางวัลยกย่องความเป็นเลิศด้านธรรมาภิบาล ประจำปี 2567 ปีนี้มีถึง 2 กลุ่มธุรกิจที่ได้รับรางวัล CG Achievement Awards ได้แก่ ซีพีเอฟ โดย คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และทรู โดย คุณมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัล CG Achievement Awards 2024 ในระดับ Gold บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท แอ๊ดว้านซ์ฟาร์ม่า จำกัด ธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์บก กลุ่มบริษัท ออลล์ นาว บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด กลุ่มธุรกิจเจียไต๋ บริษัท ซีพี ฟิวเจอร์ ซิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท ซีพี เมดิคัล เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัท ฟรีวิลล์ โซลูชั่นส์ จำกัด ธุรกิจเกษตรภัณฑ์ บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด บริษัท สยามแลนด์ ฟลายอิ้ง จำกัด บริษัท ทรู ลีสซิ่ง จำกัด บริษัท ทรู พรอพเพอร์ตีส์ และ บริษัท ไวร์เออ แอนด์ ไวร์เลส จำกัด ระดับ Silver บริษัท อี.ซี.ไอ. กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท ธนะ ดิจิตอล ไลฟ์ จำกัด และระดับ Bronze บริษัท เจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรม จำกัด เพื่อเชิดชูองค์กรต้นแบบด้านธรรมาภิบาล ที่ร่วมกันยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดีในเครือซีพี
เสริมมุมมองเข้มข้นกับเวที “Subsidiary Governance Talk” โดย คุณเพียงพนอ บุญกล่ำ กรรมการสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ที่มาแบ่งปันประสบการณ์และแนวทางการสร้างธรรมาภิบาลให้แข็งแกร่ง พร้อมเติมความโปร่งใสให้การดำเนินธุรกิจเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน โดยกล่าวว่า เครือซีพีเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายและมีการปฏิบัติการด้าน CG ที่น่าสนใจ เพราะทั้งปตท. และซีพีเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีทั้งผู้สนับสนุนและผู้ไม่เห็นด้วย
ปิดท้ายอย่างเข้มข้นกับเวทีเสวนาใหญ่ “Shaping the Future of Governance: A Dialogue on Gap Analysis and Performance Enhancement” ที่ได้ 4 ผู้บริหารตัวจริงจากกลุ่มธุรกิจชั้นนำในเครือซีพี มาร่วมเปิดมุมมอง แชร์ประสบการณ์ตรงกันแบบจัดเต็ม คุณกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กร ซีพีเอฟ คุณเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) คุณจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร ทรู คุณศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร ซีพี แอ็กซ์ตร้า มาร่วมถ่ายทอดมุมคิด-แนวปฏิบัติจริง ว่าทำอย่างไรให้ธรรมาภิบาลไม่ใช่แค่ “นโยบาย” แต่กลายเป็นดีเอ็นเอขององค์กร พร้อมชวนกันถกประเด็น ตีโจทย์-หาโอกาส ยกระดับธรรมาภิบาลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อให้ธุรกิจในเครือซีพี เติบโตอย่างโปร่งใส และ ยั่งยืนในทุกมิติ
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาล (CG) ของเครือซีพีว่า เรามีความมุ่งมั่นในการทำให้ธรรมาภิบาลเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ขององค์กร เพราะเรามั่นใจว่า CG ไม่ใช่แค่กฎระเบียบ แต่เป็นกลไกสำคัญในการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน สำหรับปีที่ผ่านมา เครือซีพีได้ก้าวจากการ “มี CG” ไปสู่การ “ใช้ CG” อย่างเป็นรูปธรรม ผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ 1. การบูรณาการธรรมาภิบาลในทุกกระบวนการขององค์กร โดย CG จะไม่เป็นแค่การกำกับดูแล แต่จะกลายเป็น “วัฒนธรรม” ที่ทุกคนในองค์กรยึดถือ ซึ่งต้องขับเคลื่อนผ่าน 5 Transformation ได้แก่ ความโปร่งใส การเชื่อมโยงตลาดและผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) ความเป็นผู้นำ การให้อำนาจ และการใช้เทคโนโลยี 2. การใช้ CG เป็นเครื่องมือในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดย CG ช่วยลดความเสี่ยง ขับเคลื่อนนวัตกรรม และสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งเราจะต้องขับเคลื่อน CG ให้เป็นรูปธรรม ผ่านกรอบ GRC (Governance, Risk, and Compliance) และ 3. การวัดผลและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราจะไม่หยุดอยู่แค่ที่มาตรฐานปัจจุบัน แต่เราต้องสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ในปีนี้ เครือซีพีได้รับรางวัล DJSI และจาก Ethisphere รวมถึงรางวัล ESG Corporate Excellence Awards ครั้งแรกที่มอบให้กับซีพีเอฟและทรู ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่เป็นผู้นำและได้รับการยอมรับในระดับโลก ถือเป็นความสำเร็จที่เราภาคภูมิใจ แต่ยังมีงานที่ต้องขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย และเครือซีพียังมุ่งมั่นขยายการดำเนินงานด้านความยั่งยืนและ CG ไปยังประเทศต่างๆ เพื่อความยั่งยืนที่ครอบคลุมทั่วโลก
คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ ตัวแทนองค์กรที่คว้ารางวัล ESG Corporate Excellence Awards ปีนี้ เปิดใจว่า ที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับ ESG แบบจริงจัง เพราะเราเชื่อว่ามันคือพื้นฐานสำคัญ ที่ช่วยต่อยอดความยั่งยืน และเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง หนึ่งในตัวอย่างชัด ๆ คือเรื่อง NET Zero ที่ซีพีเอฟไม่ได้ทำแค่ให้ดูดี แต่เรานำมาใช้สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ว่าธุรกิจของเราพร้อมเดินหน้าสู่อนาคตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป และที่สำคัญ ESG ของเราก็ไม่ได้หยุดแค่ในองค์กร แต่ขยายไปถึงการทำงานกับคู่ค้าและซัพพลายเออร์ด้วย เพราะการสร้างความยั่งยืน ต้องไปด้วยกันทั้งระบบ
ส่วน คุณมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร CG จากกลุ่มทรู ซึ่งคว้ารางวัลนี้เช่นกัน ก็เสริมว่า เรื่อง CG หรือธรรมาภิบาล เป็นวาระสำคัญที่กลุ่มทรูยึดมั่นมาโดยตลอด ภายใต้การนำของ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ที่ขับเคลื่อนจากบอร์ดบริหารลงไปถึงพนักงานทุกระดับนอกจากนั้น กลุ่มทรูยังให้ความสำคัญกับ ESG ในทุกมิติ โดยเฉพาะบทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ช่วยให้คนไทยเข้าถึงบริการที่ทันสมัย ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมเรื่องการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
“ก้าวต่อไปของกลุ่มทรู เราจะเดินหน้าสร้างเกราะป้องกันด้าน Cyber Security ให้กับคนในสังคม เพราะเรามองว่าความยั่งยืนที่แท้จริง ต้องเกิดจากการเติบโตไปพร้อมกับการดูแลคนรอบข้าง และสร้างผลดีให้กับประเทศด้วย” คุณมนัสส์ทิ้งท้าย
ด้าน คุณศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร ซีพี แอ็กซ์ตร้า เล่าว่า ปีนี้ดีใจมาก เพราะ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้รับรางวัล CP Achievement Award ในระดับโลกด้วย ต้องบอกเลยว่า มันไม่ง่ายนะ เพราะเราต้องพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ในระดับโลกเราได้คะแนนถึง 90 แล้ว ซึ่งถือว่าสูงมาก แต่เป้าหมายต่อไป 95 หรือ 100 นี่แหละ เป็นโจทย์ท้าทายที่เราต้องช่วยกันคิดต่อ สิ่งสำคัญที่อยากบอกคือ เรื่อง จริยธรรม มันฝังอยู่ในดีเอ็นเอของพวกเราชาวซีพี แอ็กซ์ตร้าอยู่แล้ว เพราะเรายึดมั่นในเรื่องค่านิยมหลัก โดยเฉพาะ ความซื่อสัตย์ ซึ่งทุกคนรู้ดีและยึดถือปฏิบัติกันมาโดยตลอด แต่แน่นอน เราก็ไม่หยุดแค่นี้ จะมีการสื่อสารที่เข้มข้นขึ้น รวมถึงการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่า การทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน จะช่วยให้ทุกอย่างแข็งแรงขึ้น อีกเรื่องที่อยากแชร์คือ ปีนี้ถือว่าเป็นปีสำคัญของเรา เพราะเราก้าวข้ามไปอีกขั้น จากการควบรวม แม็คโคร และ โลตัส วันนี้เรามีพนักงานกว่า 80,000 คนแล้ว ซึ่งความท้าทายก็คือ จะทำยังไงให้คนกว่า 80,000 คน มีดีเอ็นเอเดียวกันในเรื่อง ธรรมาภิบาล นี่แหละ คือสิ่งที่เราต้องเดินหน้าพัฒนากันต่อไป
ทั้งนี้ CG Network Recognition Awards เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้แก่กลุ่มธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่มีผลการดำเนินงานเป็นเลิศตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของเครือฯ โดยพิจารณาจากองค์กรที่สามารถขับเคลื่อนมาตรฐานธรรมาภิบาลได้อย่างโดดเด่น ซึ่งตัวชี้วัดสำคัญของรางวัลนี้ ได้แก่ การจัดทำแผนการกำกับดูแลและรายงานผลรายไตรมาส ครอบคลุม 100% ของกลุ่มธุรกิจ การปลูกฝังวัฒนธรรมด้านจริยธรรม โดยให้พนักงานทุกกลุ่มธุรกิจรับทราบ เรียนรู้ และทดสอบจรรยาบรรณธุรกิจประจำปี รวมถึงการสำรวจการรับรู้ด้านธรรมาภิบาลและการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใสและยั่งยืน โดยหลักเกณฑ์ในการพิจารณารางวัลประกอบด้วย 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ การจัดทำแผนงานและรายงานความคืบหน้าอย่างเป็นระบบ การนำนโยบายไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม การสื่อสารนโยบายสู่พนักงานในกลุ่มธุรกิจทุกระดับ การเข้าร่วมอบรมด้านธรรมาภิบาลตามแนวทางของเครือฯ และการส่งต่อองค์ความรู้ด้านธรรมาภิบาลให้แก่พนักงานทุกคน รางวัลนี้จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการให้แข็งแกร่ง พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน