การกำกับดูแลกิจการที่ดีเสริมสร้างพัฒนาการที่ยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์สู่ศตวรรษใหม่

โดย คุณสุภกิต เจียรวนนท์ : ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์

เครือเจริญโภคภัณฑ์ก่อกำเนิดบนผืนแผ่นดินไทยเมื่อปี พ.ศ.2464 และในช่วงหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ได้พัฒนาและเติบโตเป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติของคนไทยที่ได้ขยายครอบคลุมในทุกทวีปของโลก เราจึงมีความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์พัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

“วัฒนธรรมการส่งต่อคุณค่า” แนวทางเพื่อความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์

 ตั้งแต่วันแรกของการทำธุรกิจ เรายึดมั่นในแก่นแท้คือ การให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ คุณธรรม และเทคโนโลยีซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็น “ค่านิยมองค์กร 6 ประการ” ที่มุ่งมั่นเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชนก่อนบริษัทในทุกๆ ประเทศที่เครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าไปลงทุนประกอบธุรกิจ หลักการนี้คนซีพีทุกคนเรียกว่า หลักปรัชญาสามประโยชน์

นอกจากนี้ค่านิยมองค์กรของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังส่งเสริมความคิดและแนวทางการดำเนินธุรกิจให้เติบโตพัฒนาในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งต่อคุณค่าให้แก่คนรุ่นถัดไปอย่างยั่งยืน ด้วยค่านิยมการยอมรับความเปลี่ยนแปลง การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพบนพื้นฐานของคุณธรรมและความซื่อสัตย์

ผู้บริหารและเพื่อนพนักงานซีพีทุกคนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีความยึดมั่นในค่านิยมทั้ง 6 ประการและตระหนักถึงความสำคัญของหลักธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลกิจการ ผู้นำของเราร่วมกันสร้างคนดีและเก่งมาพัฒนาธุรกิจและดูแลเพื่อนพนักงานด้วยความใส่ใจ ส่งเสริมความรักและสามัคคีในองค์กร สร้างความสุขในการทำงานและพร้อมส่งต่อคุณค่าและความสุขให้แก่ลูกค้าของเรา ซึ่งก็ได้ส่งผลให้ธุรกิจของเรายั่งยืนมาถึงหนึ่งศตวรรษ ทำให้เครือฯ ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรทางธุรกิจและรัฐบาล รวมถึงประชาชนในทุกประเทศทั่วโลกที่เราเข้าไปลงทุนประกอบธุรกิจ

ก้าวต่อไปของเครือเจริญโภคภัณฑ์สู่ศตวรรษหน้าในบทบาทผู้นำธุรกิจในเวทีโลก ผมเชื่อว่าศรัทธาในแก่นแท้และค่านิยมองค์กรของคนซีพีที่ดีและเก่งทุกคน การใช้คุณธรรมและความซื่อสัตย์ในการกำกับดูแลธุรกิจของเรา อีกทั้งวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์และการผนึกกำลังกันจะสามารถนำพาให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ของเราและสังคมโลกพัฒนาได้อย่างยั่งยืน

 “การกำกับดูแลกิจการที่ดี” หัวใจขับเคลื่อนธุรกิจ

เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นบริษัทที่มีธุรกิจหลากหลาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนทุกเพศทุกวัยทั่วโลก เรามีเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพ ชีวิต สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนในสังคมวันนี้เพื่อก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ดังนั้น “การกำกับดูแลกิจการ” คือ หัวใจของการดำเนินธุรกิจ  มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการสร้างสรรค์สินค้าคุณภาพ สร้างองค์กรให้เป็นที่เชื่อถือ สร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในศตวรรษต่อไปของเครือเจริญโภคภัณฑ์

เครือเจริญโภคภัณฑ์มีโครงสร้างและระบบการบริหารจัดการด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี เรามีคณะกรรมการบรรษัทภิบาลระดับเครือฯ ที่ได้เริ่มขับเคลื่อนนโยบายธรรมาภิบาลด้านต่างๆ ในประเทศไทย ได้ขยายไปที่ประเทศจีนและทุกประเทศที่เราดำเนินธุรกิจทั่วโลก ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างธรรมาภิบาลตามมาตรฐานสากลให้เกิดขึ้นในทุกธุรกิจของเราทั่วโลกและมุ่งมั่นตั้งใจสร้างความยั่งยืนขององค์กรภายใต้หลักจริยธรรม คุณธรรม ความซื่อสัตย์และการกำกับดูแลกิจการที่ดีทัดเทียมกับบริษัทชั้นนำทั่วโลก

สร้าง “ผู้นำที่ดี-เก่ง” นำการเปลี่ยนแปลง

เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการสร้างผู้นำที่ดีและเก่งมาตลอดหนึ่งศตวรรษ ในปัจจุบันเรามีสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ได้เปิดดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ซึ่งถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมด้านทรัพยากรบุคคลของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่บ่มเพาะผู้นำและหล่อหลอมยุทธศาสตร์ของเครือฯ อีกทั้งเป็นที่ผนึกกำลังกายและใจของคนซีพีทั่วโลก

ผู้นำที่ดีและเก่งของซีพีในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ของเครือฯ จะต้องเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ยึดมั่นและปฏิบัติตามค่านิยมองค์กรทั้ง 6 ประการของเครือฯ อันมีคุณธรรมและความซื่อสัตย์เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี อีกทั้งต้องติดตามดูแลให้มีการปฏิบัติตามค่านิยมองค์กรอย่างทั่วถึง ต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของการวัดผลการปฏิบัติงาน

ผู้นำที่ดีและเก่งของซีพี เป็น “ผู้นำที่ให้โอกาสและรู้จักสร้างคนดีและเก่งให้กับองค์กร” โดยให้การสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นและส่งเสริมบุคคลากรเข้าร่วมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความโปร่งใสเพื่อสร้างร่วมมือร่วมใจกันทั่วทั้งองค์กร

นอกจากนี้ ผู้นำที่ดีและเก่งของซีพีต้องเป็น “ผู้นำที่มีความกล้าหาญ รอบคอบและมีความรับผิดชอบสูง” เพราะโลกในปัจจุบันนี้เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย มีความผันผวน ความไม่แน่นอน มีความซับซ้อนและคลุมเครือสูง หรือที่เรียกว่า VUCA WORLD การเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นอย่างชัดเจน

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้เราต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ พัฒนาการทำงานให้รวดเร็ว ปรับตัวและแข่งขันได้ดีภายใต้ปัจจัยการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งต้องบริหารความเสี่ยงด้วยความรับผิดชอบ ในขณะเดียวกันผู้นำที่ดีและเก่งของเราจะต้องกล้าตัดสินใจบนพื้นฐานของจริยธรรม จรรยาบรรณ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 CG คือเรือธงนำองค์กรสู่เวทีโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน

การที่เครือเจริญโภคภัณฑ์จะก้าวต่อไปสู่ศตวรรษหน้าในบทบาทผู้นำธุรกิจในเวทีโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืนได้นั้น เราต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านรวมถึงเรื่องงานกำกับดูแลกิจการด้วย โดยที่คณะกรรมการบรรษัทภิบาลระดับเครือฯ ได้จัดทำกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับพันธกิจของเครือฯ และได้เริ่มขับเคลื่อนในกลุ่มบริษัทที่ประเทศไทยและจะขยายไปยังประเทศจีนและประเทศต่างๆ ทั่วโลก

กลยุทธ์ที่สำคัญประการหนึ่งคือ การผนึกกำลังกันระหว่างบริษัทแม่และบริษัทในเครือฯ ผ่านการจัดตั้งคณะทำงานด้านธรรมาภิบาลเครือฯ มีการสื่อสารและติดตามการดำเนินงานกันเป็นประจำ เป็นการสร้างความมีส่วนร่วมของพนักงานทุกคน เพื่อให้รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของร่วมกัน ร่วมรับผิดชอบในการขับเคลื่อนนโยบายธรรมาภิบาลด้านต่างๆ ทั้งนี้ยังเป็นการสร้างการเรียนรู้และพัฒนาความคิดอย่างต่อเนื่อง นำสู่การเป็นวัฒนธรรมองค์กรต่อไป

ผลสำเร็จในปีที่ผ่านมา คือ พนักงานทุกคนได้ผ่านการทดสอบด้านจรรยาบรรณธุรกิจ 100 % และสามารถติดตามการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการได้อย่างต่อเนื่องจากแผนภาพแสดงผลการกำกับดูแลกิจการ (CG Dashboard)

กรอบ CG และการบริหารความเสี่ยงยุควิกฤติโควิด-ความปกติใหม่ 

การบริหารความเสี่ยง : เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคลเป็นอันดับต้นๆ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โรคระบาดทุกครั้ง สำหรับสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้เครือฯ มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานและครอบครัว อีกทั้งคู่ค้าตลอดห่วงโซ่อุปทานในทุกประเทศที่เครือฯ ประกอบกิจการ เพื่อสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานและคู่ค้า ลดความเสี่ยงเพื่อทำให้เราสามารถส่งต่ออาหารและบริการที่สด สะอาด ปลอดภัยสู่ผู้บริโภคอย่างไม่ติดขัดในช่วงวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้

การกำกับดูแลกิจการด้วยคุณธรรมและจริยธรรม : เครือเจริญโภคภัณฑ์บริหารกิจการบนพื้นฐานของจริยธรรม คุณธรรมและความกตัญญู ในยามที่ประเทศชาติเดือดร้อน เราขอมีส่วนร่วมในการบรรเทาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม โดยในประเทศไทย จีนและต่างประเทศ เราได้ให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เช่น การจ้างงานที่นอกเหนือไปจากภาวะปกติ สร้างงานและรายได้ให้กับนักศึกษาและประชาชน การสร้างโรงงานผลิตหน้ากากเพื่อบรรเทาปัญหาความขาดแคลนในประเทศไทย การบริจาคอาหาร อุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของยังชีพให้กับบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มเสี่ยงและผู้ที่ได้รับผลกระทบ

พัฒนาตนเองด้วยมุมมองที่ทันสมัยและรอบด้าน : ในภาวะวิกฤตโควิด-19 นี้ ที่ส่งผลให้การทำงานและการทำธุรกิจในรูปแบบเดิมถูกพลิกผันไปอย่างรวดเร็ว เครือเจริญโภคภัณฑ์ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัล ได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการพัฒนาเครื่องมือสื่อสารระบบดิจิทัลควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นให้กับพนักงานและคู่ค้าเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตและปฏิบัติหน้าที่ได้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ความปลอดภัยของข้อมูล : เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้ธุรกิจต้องอาศัยข้อมูลในการดำเนินงานผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดความเสี่ยงเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล ปัจจุบันหน่วยงานที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ทำการศึกษาและดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ

สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าวิกฤตการณ์โควิด-19 เช่นเดียวกับวิกฤตการณ์ในครั้งก่อน ๆ จะจบลงในไม่ช้า และทำให้เราสามารถกลับมาใช้ชีวิตที่ดีได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามการใช้ชีวิตของเราคงไม่เหมือนเดิมในหลาย ๆ ด้าน ผมขอเป็นกำลังใจให้ผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานทุกคนในการก้าวข้ามวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกันครับ

ที่มา : วารสาร CG Voice Issue 03