มูลนิธิเชฟแคร์ส เดินหน้าตามเจตนารมณ์สร้างคนคุณภาพกลับสู่สังคม ผ่านโครงการสานฝันปั้นเชฟ ให้ “โอกาส” เด็กจากสถานพินิจและเด็กด้อยโอกาส สู่การเป็นเชฟมืออาชีพ โดย คุณมาริษา เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พร้อมด้วย คุณณัฏฐพล ภวไพบูลย์ (เชฟนิค) และคุณชุมพล แจ้งไพร (เชฟชุมพล) สมาชิกมูลนิธิเชฟแคร์ส ร่วมต้อนรับเยาวชนทั้ง 12 คน ในวันเปิดเทอม ณ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
คุณมาริษา เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเชฟแคร์ส กล่าวว่า Chef Cares ประสบความสำเร็จจากหัวใจจิตอาสาของเชฟระดับท้อปเชฟทั้ง 73 ท่าน จึงต้องการสานต่อการช่วยเหลือสังคมผ่านมูลนิธิเชฟแคร์ส โดยคงแนวคิดทางด้านอาหาร ในรูปแบบของการให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่มีความชื่นชอบการทำอาหารเป็นพิเศษ (passion) ให้ได้เข้ามาเรียนรู้จากเชฟระดับชั้นนำของเมืองไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และ Role Model สานฝันการเป็นเชฟในอนาคตให้เด็กๆ
“เป็นความตั้งใจที่จะให้โอกาสกับเด็กด้อยโอกาสกลุ่มนี้ได้มีอาชีพที่ดี โครงการนี้จะให้ทั้งความรู้ และการบ่มเพาะแนวความคิดด้านบวก ให้เขากลับตัวได้ และมีงานทำ น้องๆ จะได้รับแรงบันดาลใจจากท็อปเชฟที่เขาได้ใกล้ชิด และเขาจะเป็นคนคุณภาพกลับคืนสู่สังคมได้ในที่สุด” คุณมาริษากล่าว
ด้าน เชฟนิค สมาชิกมูลนิธิเชฟแคร์ส และเจ้าของร้านอาหารวังหิ่งห้อย กล่าวว่า ในฐานะเจ้าของร้านอาหารที่จะเข้ามาสอนน้องๆ ด้วย สิ่งสำคัญที่ตั้งใจจะถ่ายทอดนอกเหนือจากเทคนิคพิเศษในการทำอาหารแล้ว คือการส่งเสริมให้พวกเขามีทัศนคติเป็นบวก (Positive thinking)
“ผมตั้งใจจะเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้พิสูจน์ตนเองอีกครั้ง เชื่อว่าภายหลังการบ่มเพาะผ่านโครงการฯ น้องๆ เหล่านี้ที่มีประสบการณ์อย่างหนักในชีวิต จะมีความคิดเชิงบวกต่อตนเองและสังคม” เชฟนิคกล่าว
คุณดวงพร อุกฤษณ์ ผอ.กองพัฒนาระบบงานยุติธรรมเด็กและเยาวชน กล่าวว่า “ยังไม่เคยเห็นโครงการทุนการศึกษาใดที่มีความสมบูรณ์แบบเท่ากับโครงการนี้ ที่จะให้ทั้งความรู้และความเข้าใจต่อเยาวชนที่ต้องการ “โอกาส” ในการกลับคืนสู่สังคม ขอขอบคุณมูลนิธิเชฟแคร์สเป็นอย่างมากที่หยิบยื่นโอกาสที่มีค่ายิ่งนี้ให้น้องๆ อย่างเต็มที่ หากน้องคนไหนมีความสามารถ มีความประพฤติดี ก็มีโอกาสที่จะร้องต่อศาลเพื่อให้ปล่อยตัวออกไปใช้ชีวิตในสังคมก่อนครบกำหนดโทษได้”
“โครงการสานฝันปั้นเชฟ” เกิดขึ้นตามเจตนารมณ์ของมูลนิธิเชฟแคร์ส เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้วิธีการประกอบอาหารทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ตลอดจนได้ฝึกงานจริงกับเชฟมืออาชีพที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของประเทศ ควบคู่การพัฒนาศักยภาพของตนเองภายใต้การดูแลของนักจิตวิทยา รวมถึงมีโอกาสได้ประกอบอาชีพเชฟตามความฝันของตน
หลักสูตรดังกล่าว มีระยะเวลาศึกษา 5 เดือน แบ่งเป็นการเรียนรู้ในภาคทฤษฎีกับปฏิบัติ เป็นเวลา 2 เดือน และฝึกประสบการณ์วิชาชีพยังร้านอาหารของเชฟระดับแถวหน้าของเมืองไทย (Top Chef) อีก 3 เดือน
สำหรับเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการนี้ จะเป็นน้องๆ จากสถานพินิจ 6 คนและเป็นเด็กด้อยโอกาสจากพื้นที่ห่างไกล เช่น ชาวเขา ที่ผ่านการคัดเลือกจากศูนย์วิจัยการจัดการความรู้การสื่อสารเพื่อการพัฒนา (CCDKM) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อีก 6 คน รวม 12 คน โดยทุกคนล้วนมีความชื่นชอบในการทำอาหาร และใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟมืออาชีพ
โครงการ “สานฝันปั้นเชฟ” มีวัตถุประสงค์ให้โอกาสเยาวชนที่เคยหลงผิดได้กลับตัว มีอาชีพสุจริตและสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ โดยมูลนิธิฯ สนับสนุนทุนการศึกษา โดยใช้สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนตลอดหลักสูตร หากเยาวชนรายใดมีความสามารถและมีความประพฤติดีก็จะได้รับโอกาสในการจ้างงานต่อไป
โครงการเชฟแคร์ส เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เพื่อส่งมอบความห่วงใยแทนคำขอบคุณให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในสถานการณ์โควิด-19 ผ่านเมนูอาหารกลางวัน ที่รังสรรค์โดยเชฟยอดฝีมือระดับแถวหน้าของเมืองไทยหมุนเวียนกันเสิร์ฟเมนูรสชาติดีมีคุณค่าทางโภชนาการ
และได้ต่อยอดสู่การจัดตั้ง “มูลนิธิเชฟแคร์ส” ซึ่งมีเจตนารมณ์ส่งเสริมศาสตร์แห่งอาหารไทยที่ปรุงด้วยความพิถีพิถัน ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับโลก และจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนที่รักการปรุงอาหารได้เรียนรู้และเติบโตเป็นเชฟระดับแนวหน้าเช่นเดียวกับเชฟแคร์สต้นแบบ ด้วยความหลากหลาย ความสร้างสรรค์และงดงาม ซึ่งจะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะสนับสนุนวิถีอาหารไทยให้ทั่วโลกได้รู้จักในฐานะศูนย์รวมศาสตร์ของอาหารที่ดีที่สุดของเอเซีย
Cr.PR CPF