เมื่อเร็ว ๆ นี้ The Centre for Asian Philanthropy and Society (CAPS) เผยแพร่รายงาน “ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม (Public-Private Partnerships for Social Good)” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการผนึกกำลังที่มากขึ้นระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาทางสังคมที่ซับซ้อนในภูมิภาคเอเชีย โดยทำการศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกกับ 20 โครงการในประเทศแถบเอเชียกว่า 11 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และไทย ครอบคลุม 9 ด้าน อาทิ การศึกษา น้ำและสุขาภิบาล สุขภาพ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ การฟื้นฟูจากภัยพิบัติ สิทธิแรงงาน การพัฒนาเศรษฐกิจและชนบท รวมถึงการจัดการของเสีย
จากการที่เอเชียต้องเผชิญกับวิกฤติอย่างเลี่ยงไม่ได้ของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (Climate Change) รัฐบาลจึงตระหนักได้ว่าไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาทางสังคมได้โดยลำพัง ดังนั้นรัฐและชุมชนจึงเรียกร้องความร่วมมือกับองค์กรเอกชนและผู้ทำการกุศลเพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดียิ่งขึ้น
CAPS พบว่า 88% ของผู้นำทางเศรษฐกิจระดับสูงใน 10 ประเทศของเอเชียเชื่อว่า “ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม (Public-Private Partnerships for Social Good)” จะเป็นเรื่องปกติในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากทุกฝ่ายต่างได้รับประโยชน์จากความร่วมมือนี้ทั้งภาครัฐ เอกชน และสังคม
การเปลี่ยนแปลงบทบาทขององค์กรเอกชน
“ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม (Public-Private Partnerships for Social Good) ” จะช่วยยกระดับการทำงานของประเทศในแถบเอเชียให้เกิดความใกล้ชิดกับรัฐบาลมากยิ่งขึ้น และช่วยนำเอาศักยภาพขององค์กรเอกชนทั้งด้านทุน ความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมมาช่วยเหลือบริการทางสังคมที่จำเป็นได้ และหากความร่วมมือเป็นไปได้ดีจะส่งผลดีต่อทุกฝ่าย ซึ่งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี เป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้จริงจากการผนึกกำลังความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ที่ขยายความร่วมมือจาก 12 องค์กรผู้ก่อตั้ง สู่ 44 องค์กรเอกชนในปัจจุบัน มาร่วมกันยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ทั่วถึงและทัดเทียม พร้อมส่งเสริมศักยภาพเด็กไทยสู่การเป็นเด็กดีเด็กเก่ง
คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ในฐานะประธานกรรมการ มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี เชื่อว่า การศึกษาและการลงทุนกับคนรุ่นใหม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการสร้างสังคมที่สงบสุขและรุ่งเรืองให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ นอกจากนี้ยังกล่าวว่า “รัฐมีความน่าเชื่อถือและมีอำนาจในการผลักดันสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นได้ เมื่อภาครัฐให้การสนับสนุนมูลนิธิฯ มูลนิธิฯเองก็สามารถสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นกับภาคเอกชนและสถานศึกษาได้”
ศึกษาเบื้องหลังความสำเร็จได้ในรายงานฉบับเต็มเกี่ยวกับ “ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม – Public-Private Partnerships for Social Good”
ได้ที่ http://static.trueplookpanya.com/hash_cmsblog/202107/89383/2719/FILE_1626174267.pdf