คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือฯร่วมกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ ปี 2563 ที่รัฐบาลจัดขึ้นเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยร่วมจัดแสดงนิทรรศการภายใต้ชื่อ “ต้นแบบแห่งเมล็ดพันธุ์ความสุขที่ยั่งยืน” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในฐานะที่เป็นต้นแบบของกษัตริย์นักพัฒนาที่ยั่งยืน โดยน้อมนำแนวพระราชดำริมาเป็นต้นแบบในการสร้างความยั่งยืนให้แก่ประเทศชาติและสังคมเพื่อความสุขที่ยั่งยืนของคนไทย
ทั้งนี้ ได้น้อมนำแนวพระราชดำริใน 3 ด้านสำคัญ คือ ด้านการพัฒนามนุษย์ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่เครือฯและบริษัทในเครือฯได้ใช้เป็นต้นแบบในการประกอบธุรกิจสร้างประโยชน์เพื่อประเทศชาติและสังคม สอดคล้องกับปรัชญา “3 ประโยชน์” ที่เป็นค่านิยมองค์กรซึ่งมุ่งสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประโยชน์ต่อประชาชน และประโยชน์ต่อองค์กรเป็นลำดับสุดท้าย ภายในนิทรรศการต้นแบบแห่งเมล็ดพันธุ์ความสุขที่ยั่งยืนนี้ จึงแบ่งออกเป็น 3 โซน ประกอบด้วย 1.เมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต : การพัฒนามนุษย์ 2.เมล็ดพันธุ์แห่งโอกาส : การพัฒนาสังคม 3.เมล็ดพันธุ์แห่งความยั่งยืน : การพัฒนาสิ่งแวดล้อม
โซนที่ 1 เมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต : การพัฒนามนุษย์ ด้วยเพราะเห็นว่าการศึกษาเป็นรากฐานของการพัฒนามนุษย์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้มีส่วนร่วมในการช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างอนาคตให้กับเยาวชนของประเทศ ผ่านโครงการสำคัญ ๆ ได้แก่ 1.โครงการทรูปลูกปัญญา มอบโอกาสการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมด้วยสื่อและเทคโนโลยีอย่างครบวงจร 2.โครงการสามเณรปลูกปัญญาธรรม สร้างต้นแบบเยาวชน สนับสนุนการศึกษาและปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม 3.โครงการพัฒนาศักยภาพคน โดย บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งสถาบันการศึกษาเพื่อสังคม 2 แห่ง คือ “วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์” และ “สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์” รวมถึงศูนย์การเรียนรู้ปัญญาภิวัฒน์อีกกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาศักยภาพผ่านการมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนอีกหลากหลายโครงการ
โซนที่ 2 เมล็ดพันธุ์แห่งโอกาส : การพัฒนาสังคม เนื่องจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ตระหนักว่าการสร้างคุณค่าทางสังคมถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักเพื่อมอบโอกาสที่ยั่งยืนกับคนไทย ในโซนนี้จะนำเสนอถึงโครงการต่าง ๆ ที่เครือฯและบริษัทในเครือฯร่วมพัฒนาและสร้างสรรค์เพื่อสังคม ได้แก่
โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า ที่จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้น้อมนำแนวพระราชดำริด้านการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในลักษณะหมู่บ้านเกษตรกรรม ตั้งแต่ปี 2520 เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรสามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้ ซึ่งปัจจุบันหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้าเป็นชุมชนเลี้ยงสุกรที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
โครงการ “ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ปากน้ำประแส” เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าชายเลน ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศต่อยอดสู่การสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชน
“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” สนับสนุนการร่วมสร้างสรรค์สุขภาพและสุขภาวะที่ดีให้กับเยาวชน
“โครงการส่งเสริมเกษตรกรและ SME” จำหน่ายสินค้าผ่านร้าน 7-11 และ 24 shopping เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
“โครงการรอยยิ้มชาวเล” ที่นำผลผลิตของชุมชนประมงพื้นบ้านหัวไทร จ.นครศรีธรรมราชจากการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล มาต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นส่งเสริมรายได้ให้แก่ชาวประมงภายใต้แนวคิด SEACOSYSTEM เพื่อทะเลไทยยั่งยืน
“โครงการ True Coffee deaf Barista” ที่เปิดโอกาสให้ผู้บกพร่องทางการได้ยินพัฒนาเป็นบาริสต้ามืออาชีพ และยังช่วยส่งเสริมศักยภาพสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนแก่กลุ่มผู้พิการเพื่อสร้างความเท่าเทียมในสังคม
โซนที่ 3 เมล็ดพันธุ์แห่งความยั่งยืน : การพัฒนาสิ่งแวดล้อม เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นในการปกป้องระบบนิเวศและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งต่อโลกที่ยั่งยืนไปยังคนรุ่นใหม่ ในโซนนี้นำเสนอโครงการสบขุ่นโมเดล จ.น่าน ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกาแฟเพื่อพลิกฟื้นผืนป่า และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ภายในนิทรรศการต้นแบบแห่งเมล็ดพันธุ์ความสุขที่ยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ จะมีการแจกเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวคุณภาพดีหลากหลายชนิดทุกวันรวมทั้งสิ้น 9,999 ซอง เมล็ดพันธุ์ที่แจก อาทิ คะน้ายอด ผักบุ้งเรียวไผ่ กระเพรา โหระพา แมงลักและพริกขี้หนู และยังมีกิจกรรมร่วมสนุกถ่ายภาพกับแบบจำลองผืนป่า สบขุ่นโมเดล จ.น่าน พลิกฟื้นผืนป่าสู่ความยั่งยืน พร้อมแชร์ โพสต์ภาพ รวมทั้งยังสามารถลองชิม Reforested Coffee จากเมล็ดกาแฟจาก อ.สบขุ่น จ.น่าน และมีการจัดแสดงต้นราชพฤกษ์