ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง บิ๊กเนมโควิด-19 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินการเก็บข้อมูลแบบผสมผสาน (Mixed Method) ทั้งการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การลงพื้นที่ และการเก็บข้อมูลในโลกโซเชียลทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,551 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 22-25 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา
เมื่อถามถึง บิ๊กเนมคนสำคัญชื่อเด่นโดนใจในรัฐบาลแก้โควิด-19 พบ 5 อันดับแรก ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 35.7 รองลงมาคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร้อยละ 29.5 อันดับสาม ได้แก่ คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร้อยละ 21.4 อันดับสี่ ได้แก่ คุณอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร้อยละ 18.0 และอันดับห้า ได้แก่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 15.5
ที่น่าสนใจ คือ เมื่อถามถึง บิ๊กเนมมหาเศรษฐีคนสำคัญชื่อเด่นโดนใจช่วยเหลือประชาชน แก้โควิด-19 พบ 5 อันดับแรก ได้แก่ ประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ กลุ่มซีพี ร้อยละ 22.4 รองลงมา ได้แก่ นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กลุ่มซัมมิท ร้อยละ 10.0 อันดับสาม ได้แก่ นายแพทย์ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ โรงพยาบาลกรุงเทพและบางกอกแอร์เวย์ ร้อยละ 9.1 อันดับสี่ ได้แก่ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ กลุ่มซีพี ร้อยละ 7.4 และอันดับห้า ได้แก่ คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ กลุ่มซัมมิท ร้อยละ 7.1 ตามลำดับ
นอกจากนี้ บิ๊กเนม โรงพยาบาลชื่อเด่นโดนใจ ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ โควิด-19 พบ 5 อันดับแรก ได้แก่ สถาบันบำราศนราดูร ร้อยละ 58.6 รองลงมา อันดับสอง ได้แก่ โรงพยาบาล ราชวิถี ร้อยละ 52.9 อันดับสาม ได้แก่ โรงพยาบาล รามาธิบดี ร้อยละ 51.4 อันดับสี่ได้แก่ โรงพยาบาล ศิริราช ร้อยละ 47.1 และอันดับห้า ได้แก่ โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ ร้อยละ 43.3 ตามลำดับ
ที่น่าพิจารณาคือ อะไรทำให้ประเทศไทยแก้ปัญหาโควิด-19 ได้ดี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.6 ระบุ แพทย์ พยาบาล อสม. เก่ง เสียสละ รองลงมาคือ ร้อยละ 65.7 ระบุ มาตรการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ร้อยละ 59.5 ระบุ คนไทยตระหนัก ปัญหาร่วมกัน ร้อยละ 58.6 ระบุ คนไทยระดับกลาง ถึง ล่าง ดูแลช่วยเหลือกันเอง และร้อยละ 56.1 ระบุ เพราะทุกคนกลัวตาย ตามลำดับ
ผอ.ซูเปอร์โพล ระบุว่า ผลโพลชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลและภาคประชาชนเวลานี้กำลังไปด้วยกันได้แก้วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ฐานหนุนรัฐบาลที่เคยตกต่ำสุดเหลือร้อยละ 9 ช่วงต้นมีนาคมเพิ่มขึ้นพอจะขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ ได้ แต่วันนี้ต้องคิดหนักคือ ฐานหนุนรัฐบาลยังเปราะบาง และอารมณ์ของประชาชนยังไม่เกาะติดเหนียวแน่นกับรัฐบาล อะไรที่รัฐบาลจะทำแต่เสี่ยงทำรัฐบาลสั่นคลอนและการขับเคลื่อนประเทศอาจสะดุดอย่าทำ
ดังนั้นบิ๊กเนม (Big Name) ใดทำแล้วโดนใจควรรักษาไว้ อะไรมาใหม่ๆ ที่ประชาชนยังไม่เข้าใจ รัฐบาลยังสื่อสารได้ไม่ดีควรชะลอออกไปก่อน เช่น กรณีของ CPTPP ความตกลงเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก ที่ชาวบ้านเกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ยังเคลือบแคลงสงสัย ควรยับยั้งไว้ก่อน เป็นต้น