กว่าหนึ่งปีแล้วที่โลกของเราได้รู้จักกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อโควิด-19 ความร้ายกาจของมันคือการเล่นงานทุกภาคส่วนให้ค่อยๆ ล้มลงคล้ายโดมิโน่ และยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไม่ว่าจะกับองค์กรใหญ่ ผู้ประกอบการรายย่อย สังคม ชุมชน และประชาชนทั่วไป รวมไปถึงเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ สิ่งดีๆ ที่เรายังคงได้เห็นอยู่ทุกวันคือ การรวมพลังครั้งใหญ่ของคนไทย ช่วยกันประคับประคองในส่วนที่ตนทำได้โดยมุ่งหวังจะฝ่าวิกฤตไปด้วยกันทั้งหมด
เช่นเดียวกันกับ “เซเว่น อีเลฟเว่น” หนึ่งในผู้ประกอบการรายสำคัญที่เคียงข้างคนไทยมาตลอด และเรามักได้ยินชื่อของ ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ อยู่เสมอในทุกครั้งที่สังคมไทยต้องเผชิญวิกฤต และในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน โดยนับจากการระบาดเริ่มต้นในปี 2563 โครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ก็ถูกจัดตั้งขึ้น
โดยมีเป้าหมายหลักคือ การช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับแพทย์ พยาบาล พี่น้อง ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ พร้อมสนับสนุนโรงทานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพระสงฆ์ช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 และหลังจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในปี 2564 เซเว่นฯ ก็ได้ตัดสินใจเดินหน้าโครงการดังกล่าวต่อ เกิดเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ในมุมของการประคับประคององค์กรฝ่าวิกฤตไปพร้อมกับการเคียงข้างพี่น้องคนไทย ผ่าน 4 โครงการหลัก ที่ยืนยันได้ถึงความตั้งใจจริงที่จะช่วยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ครบถ้วนในทุกมิติ ซึ่งจะต่อยอดสู่การฟื้นฟูประเทศในเร็ววัน ภายใต้งบประมาณมากถึง 88 ล้านบาท
เสริมแกร่งเจ้าหน้าที่ด่านหน้า มอบครุภัณฑ์หนุน รพ.สนาม 18 จังหวัด
ในภาพใหญ่ระดับประเทศ เซเว่นฯ ซึ่งเล็งเห็นความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และการเยียวยารักษาให้ผู้ป่วยหายดีโดยไวที่สุด ได้ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของคุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์พร้อมด้วยเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลสนามกว่า 50 แห่งที่เป็นพื้นที่ควบคุมใน 18 จังหวัด ตามโครงการ “ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” โดยอุปกรณ์ทั้งหมดจะเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญเพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในการรับมือผู้ป่วยที่เข้ามาอย่างทั่วถึงและเพียงพอ ช่วยให้การทำหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสที่จะช่วยให้ผู้ป่วยหายจากการติดเชื้อและกลับบ้านอย่างปลอดภัยได้เร็วขึ้น
เคียงข้างศูนย์รวมจิตใจ น้อมถวายสิ่งของจำเป็นผ่านมหาเถรสมาคม
การระบาดของโควิด-19 ไม่เพียงสร้างผลกระทบต่อประชาชนเท่านั้น แต่สถาบันศาสนาซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยก็ต้องเผชิญความท้าทายไม่ต่างกัน ด้วยเหตุนี้ เซเว่น อีเลฟเว่น จึงอาสาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยทำนุบำรุงที่พึ่งพิงทางจิตใจให้กับคนไทย ด้วยการน้อมถวาย เครื่องวัดอุณหภูมิ แอลกอฮอล์เจล พร้อมน้ำดื่ม ผ่านกรรมการมหาเถรสมาคม เพื่อส่งต่อให้กับวัดในเขตปกครองทั่วประเทศ
โดยที่ผ่านมาได้ทำการ ถวายไปแล้วรวม 5 วัด โดยมีพระเถรานุเถระเป็นผู้รับถวายจากคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย ศาสตราจารย์ ดร.พระพรหมบัณฑิต วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดยานนาวา, พระธรรมราชานุวัตร วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร, พระวิสุทธาธิบดี วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร นับเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ช่วยเยียวยาทั้งความเดือดร้อนและช่วยเยียวยาจิตใจคนไทยที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาไปพร้อมกัน
เร่งเยียวยากลุ่มเปราะบาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
“กลุ่มเปราะบาง” ได้แก่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทั้งที่อาศัยอยู่ในมูลนิธิและชุมชน นับได้ว่าเป็นอีกกลุ่มประชาชนสำคัญที่ต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องด้วยผลกระทบจากการระบาดมีโอกาสทำให้คุณภาพชีวิตและสุขภาพของกลุ่มเปราะบางอ่อนแอลงได้มากกว่าปกติ
ด้วยเหตุนี้ เซเว่น อีเลฟเว่น จึงได้เดินหน้ามอบของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้แก่ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย เครื่องอุปโภค บริโภค แอลกอฮอล์ น้ำดื่ม-ของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งในปัจจุบันได้ส่งมอบไปแล้วผ่านภาคประชาสังคมกว่า 16 แห่ง อาทิ โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา-บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน, ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข ศูนย์ 45, มูลนิธิเด็ก, มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก, สมาคมส่งเสริมศักยภาพสตรีพิการ, มูลนิธิดวงประทีป, มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม, กองทุนสวัสดิการชุมชน และสภาองค์กรชุมชน เขตยานนาวา เป็นต้น ซึ่งโครงการนี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้ความตั้งใจไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังของ ซีพี ออลล์ สัมฤทธิผล
ร่วมด้วยช่วยค่าครองชีพ ลดราคาสินค้า ช่วยสังคมไทยฝ่าวิกฤต
ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น นับเป็นร้านอิ่มสะดวกที่อยู่คู่สังคมไทยมายาวนาน ในฐานะที่พึ่งพิงสำคัญให้กับประชาชนในทุกพื้นที่และทุกระดับ ด้วยสินค้าจำนวนมาก มีความหลากหลาย ราคาเข้าถึงง่าย ทั้งยังมีโปรโมชั่นดีๆ อยู่เสมอ ซึ่งก็ด้วยความตระหนักถึงกลุ่มลูกค้าที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก บมจ.ซีพี ออลล์ จึงได้ออกแคมเปญใหญ่ “เซเว่น อีเลฟเว่น ร่วมด้วยช่วยค่าครองชีพ” ภายใต้โครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” จับมือคู่ค้าลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ลดสูงสุดถึง 73% ในช่วงที่ผ่านมา
ไม่เพียงเท่านั้นในฝั่งของ All Online ยังมีการยกขบวนสินค้าทั้งของกินของใช้ ลดราคาพิเศษ ตอบรับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมพร้อมช่วยคนไทยฝ่าวิกฤต หวังแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับลูกค้าคนสำคัญ
ด้านคุณธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้คณะแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนในทุกพื้นที่มีความเสี่ยง ซีพี ออลล์ จึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วน จึงได้เดินหน้าสานต่อโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย รวมถึงน้ำดื่ม อาหาร เบเกอรี่ ฯลฯ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้เปรียบเสมือนนักรบด่านหน้าที่ต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงพระสงฆ์และกลุ่มเปราะบาง
“สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณในความเสียสละของคณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน พร้อมขออยู่เคียงข้างคนไทยในวิกฤตสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ด้วยเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ว่า “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ตามปณิธานองค์กรร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” นายธานินทร์กล่าว
เมื่อย้อนกลับไปมองถึง 4 โครงการข้างต้น สิ่งที่เราสามารถเห็นได้ชัดเจนก็คือความมุ่งมั่นที่จะช่วยฟื้นฟูสังคมไทยในทุกภาคส่วน ซึ่งแม้ว่าตัวบริษัทเองจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เช่นเดียวกัน แต่ก็ยังคงเดินหน้าภารกิจอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้การสนับสนุนทั้งในรูปแบบของเงินทุน สิ่งของเครื่องใช้ รวมไปถึงกำลังกายและกำลังใจ
สิ่งนี้จึงเป็นกรณีศึกษาได้อย่างดีถึงแนวคิดการทำธุรกิจในแบบองค์กรยุคใหม่ที่มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับสังคม และความตั้งใจนี้ของ ซีพี ออลล์ ก็สะท้อนผ่านชื่อโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ได้แจ่มชัด สมดังปณิธานที่บริษัทยึดมั่นอยู่เสมอ ดังที่กล่าวเอาไว้ว่า “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน”
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์