เมื่อเร็วๆนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยสำนักงานด้านความความยั่งยืนและพัฒนาชุมชน จ.น่าน ร่วมกับโรงเรียนบ้านสบขุ่น อ.ท่าวังผา จ.น่าน พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอิงวิถีชุมชน มุ่งพัฒนาเด็กและเยาวชนบ้านสบขุ่น ระดับชั้นประถมศึกษาที่ 1-6 โดยเน้นกระบวนการเรียนรู้ ชุดความรู้ที่อิงกับบริบทชุมชน โดยบูรณาการร่วมกับ สาระกลุ่มการเรียนรู้ของโรงเรียนอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 1 ภาคเรียน ปีการศึกษา 2566 นำโดยนายเทอดพงษ์ นันลังค์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสบขุ่น และได้จัดพิธีมอบใบประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนที่จบหลักสูตร โดยมี นายอรรถวิทย์ ยุทธยศ ผู้จัดการทั่วไป ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมมอบในครั้งนี้ด้วย เพื่อปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนบ้านสบขุ่นเห็นคุณค่าของการมีส่วนร่วมในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งถ่ายทอดความรู้ด้านเกษตรกรรมปลูก โดยเฉพาะ “กาแฟสร้างป่า” ซึ่งเป็นอาชีพที่มีอยู่ในชุมชน ควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจชุมชน ให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน และปูพื้นฐานสู่อาชีพที่ยั่งยืน ณ โรงเรียนบ้านสบขุ่น อ.ท่าวังผา จ.น่าน
โดยกิจกรรมดังกล่าวฯ มีการจัดอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการร่วมกับหลักสูตรของโรงเรียน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 รวม 16 ชั่วโมง ด้วยรูปแบบการเรียนรู้และเปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน ได้แก่ การเรียนรู้เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ชุมชน เช่น สิ่งมีชีวิตในลำน้ำ (นักสืบสายน้ำ) เรียนรู้กระบวนการแปรรูปของชนิดไผ่ในชุมชนและการจัดทำผังเครือญาติ เพื่อเข้าใจความหลากหลายทางพันธุกรรมของครอบครัวและความสัมพันธ์ระดับชุมชน เรียนรู้เรื่องกาแฟสร้างป่าสร้างรายได้ ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ การแปรรูปสินค้าเกษตร ช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชน และเรียนรู้ถึงวิธีการทำเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ที่มาจากในชุมชน โดยในครั้งนี้ เครือซีพี ได้มอบใบประกาศนียบัตรแก่น้องๆนักเรียน โรงเรียนบ้านสบขุ่น จำนวน 67 คน
ทั้งนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 ยังเล็งเห็นความสำคัญของหลักสูตรดังกล่าวฯ และมีเป้าหมายในการนำหลักสูตร ขยายไปยังนักเรียนในโรงเรียนอื่นๆ ใน จ.น่าน ภายใต้การพัฒนาหลักสูตรนำร่อง Learn to Earn โดยเครือซีพี มุ่งหวังว่าหลักสูตรนี้ จะเป็นประโยชน์แก่เยาวชนให้เห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในถิ่นฐานบ้านเกิดตนเอง ซึ่งถือว่ามีพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการให้ความรู้เยาวชนในการสร้างธุรกิจชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนได้ในอนาคต