เกษตรกร “ชีวิตไม่ติดลบ” มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท น้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สร้างสมดุลการใช้ชีวิต

จากชาวประมงสู่เกษตรกรต้นแบบ “ชีวิตไม่ติดลบ” นี่คือเรื่องราวของ ลุงนาน นายยอดช่วย เกษตรกรจาก อ.ป่าขาด จ.สงขลา ผู้พลิกวิกฤตค่าใช้จ่ายในปี 2549 ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิต จนสามารถลดรายจ่าย สร้างรายได้ และมีเงินออม

ลุงนานเล่าว่า “แต่ก่อนผมทำประมงมาเกือบ 20 ปี ไม่รู้จักหรอกเศรษฐกิจพอเพียงน่ะ จนกระทั่งได้มาเจอโครงการพัฒนาอาชีพตามดำริ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จ.สงขลา ของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท” โครงการนี้ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้ลุงนาน ได้เรียนรู้หลักการ “ขยันหา รักษาดี มีกัลยาณมิตร และการใช้ชีวิตแบบพอเพียง”

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง คือ “วิกฤตค่าใช้จ่าย” ทำให้ลุงนานเริ่มจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย และตระหนักว่ารายจ่ายในครัวเรือนนั้นสูงมาก การลดรายจ่ายจึงเป็นสิ่งจำเป็น ลุงนานเริ่มจากการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เช่น ค่าน้ำยาซักผ้า ค่าแก๊สหุงต้ม โดยการนำความรู้จากโครงการฯ มาประยุกต์ใช้ เช่น การทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า และแก๊สชีวภาพใช้เอง

นอกจากนี้ ลุงนานยังปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง เลี้ยงไก่ไข่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และสร้างรายได้เสริม “เมื่อก่อนต้องซื้อไข่กินทุกวัน เดี๋ยวนี้เลี้ยงไก่ไข่เอง เหลือก็ขาย มีรายได้อีกทาง” ลุงนานกล่าวด้วยรอยยิ้ม

การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เพียงช่วยลดรายจ่าย แต่ยังช่วยให้ลุงนานมีเงินออม และทำให้ลุงนานรู้จักวางแผนการเงิน รู้จักคุณค่าของเงิน และมีความสุขกับชีวิตที่เรียบง่าย

ปัจจุบัน บ้านและสวนของลุงนาน ได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิต “เกษตรกรชีวิตไม่ติดลบ” มีนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้ามาเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และนำแนวคิดไปปรับใช้ ซึ่งลุงนานก็ยินดีที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ และแบ่งปันประสบการณ์ให้กับทุกคน “บางทีชีวิตแบบนี้แหละ เป็นชีวิตที่หายากที่สุด” ลุงนานกล่าวทิ้งท้าย

เรื่องราวของลุงนาน เป็นตัวอย่างของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิต จนสามารถลดรายจ่าย สร้างรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นแรงบันดาลใจให้กับเกษตรกร และคนทั่วไป ในการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง และมีความสุขอย่างยั่งยืน