วันที่ 22 ตุลาคม 2567 เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษา ณ สถาบันผู้นำ จังหวัดนครราชสีมา ต่อเนื่องเป็นปีที่ 45 ปี โดยโครงการทุนการศึกษานี้ ถือเป็นหนึ่งในภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดขององค์กร ในการมอบโอกาสทางการศึกษา และสร้างเยาวชนไทยให้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านการเงิน โดยที่ผ่านมา เครือซีพีได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 6,612 ทุน รวมมูลค่ากว่า 189 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเยาวชนที่มีศักยภาพ เรียนดี ประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ถือเป็นการให้ด้วยใจ และเจตนารมณ์ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทยอย่างแท้จริง พร้อมกันนี้ยังได้มอบโอกาสเพื่อเสริมทักษะให้กับผู้ที่ได้รับทุนผ่านการเรียนรู้ ลงมือทำแบบ Action Based Learning อีกด้วย ซึ่งในปีนี้มีนักเรียน นิสิตนักศึกษาใหม่ที่ได้รับทุนรวม 112 คน โดยพิธีเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ และแรงบันดาลใจ โดยภายในงานมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รองประธานกรรมการบริหารทุนการศึกษาเครือฯ ประธานในพิธี พร้อมด้วย คุณศรินทร์รา วงศ์ศุภลักษณ์ กรรมการบริหารทุนการศึกษาเครือเจริญโภคภัณฑ์ รศ.ดร.เรืองศักดิ์ แก้วธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้บริหารโครงการทุนการศึกษา และคณะกรรมการทุนการศึกษา เข้าร่วมงาน
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รองประธานกรรมการบริหารทุนการศึกษาเครือฯ ประธานในพิธี กล่าวถึงความพิเศษของทุนซีพีว่า “ทุนการศึกษาซีพีเป็นมากกว่าทุนการศึกษา เพราะเป็นทุนที่มอบโอกาสอย่างแท้จริง โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ พร้อมสนับสนุนให้เยาวชนได้รับทั้งประสบการณ์ กิจกรรมสร้างสรรค์ และการฝึกทักษะที่ดี” โดยทุนซีพียังเน้นการสร้างพฤติกรรมที่ดี (Good Conduct) ผ่านการเสริมสร้าง 3 สิ่งสำคัญ คือ กิจกรรม (Activity), การลงมือทำ (Action) และการทำความดี (Good Deeds) เพื่อให้เยาวชนที่ได้รับทุนเติบโตทั้ง เก่ง และดี มีความสามารถพร้อมทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ นับเป็นหนึ่งในบทบาทสำคัญของภาคเอกชนที่ตอบแทนสังคม
“สังคมที่น่าอยู่ คือ สังคมที่คนมีโอกาสมากที่สุด เอื้อมมือเข้ามาช่วยคนที่ขาดโอกาสมากที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่ผมเห็นในทุนการศึกษาเครือซีพี นับเป็นสิ่งที่มีคุณค่า สร้างพลังเยาวชนที่เข้มแข็ง เพื่ออนาคตสังคม และประเทศ” นพ.ธีระเกียรติกล่าว
พร้อมกันนี้ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือฯ ได้ร่วมแสดงความยินดีกับน้องๆที่มีโอกาสรับทุนในปีนี้ พร้อมกับให้โอวาทและมุมมองต่อน้องๆ เพื่อที่จะได้นำไปปรับใช้ต่อไปในอนาคต โดยระบุว่า การศึกษาที่ดีไม่เพียงแต่สร้างคนเก่ง แต่ต้องสร้างคนดีที่พร้อมตอบแทน และสร้างประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ โดยเฉพาะความรัก ความกตัญญู และความเมตตา ซึ่งเป็นสิ่งที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ยึดถือ เพื่อสร้างพันธกิจต่อสังคมมาโดยตลอด
“ความรัก ความกตัญญู และความเมตตา เป็นความรู้สึกได้ถึงความทุกข์ของผู้อื่น หรือความรู้สึกที่อยากให้ผู้อื่นมีความสุข ทุนการศึกษาเครือซีพีจึงถือเป็นทุนที่เกิดจากรากฐานดังกล่าว เพราะความกตัญญูเป็นพื้นฐานของปัญญา ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิต และเป็นสิ่งที่ผู้รับทุนควรนำไปปรับใช้” นายศุภชัย กล่าว
โอกาสนี้ นายศุภชัย ยังเสนอหลักการ 3 วงกลมให้แก่ผู้ได้รับทุนนำไปเป็นข้อคิดสร้างสรรค์สังคมที่ดี ซึ่งประกอบไปด้วย วงสังคม (Social) ที่มี “ความรักและความเห็นอกเห็นใจ” (Love & Compassion) เป็นรากฐานสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้อง สองวงเศรษฐกิจ (Economic) ที่ยึดโยงด้วยพลังของ “ความมั่นคง” โดยเฉพาะสถานะทางการเงินเพื่อเป็นกำลังทำความดีได้อย่างต่อเนื่อง เป็นการบริหารความเสี่ยงเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว และวงกลมที่สาม คือ วงสิ่งแวดล้อม (Environment) ที่มีหัวใจสำคัญ คือ การสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยมีพลังของ “ความฝัน” เป็นตัวขับเคลื่อน โดยหลักการนี้ยังสามารถตอบสนองความท้าทายโลกทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในยุคปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ หรือ 5.0
ขณะที่นายปพณธีร์ ใจดีสกุณี นักศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาตร์และเทคโนโลยี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และนางสาววิลาสินี แผ่นทอง นักศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ตัวแทนนักเรียน นิสิต นักศึกษาผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาในปีนี้ได้ขึ้นกล่าวขอบคุณเครือเจริญโภคภัณฑ์ และคณะกรรมการทุนทุกท่านที่ให้โอกาส ว่า การได้รับทุนการศึกษาของเครือซีพีนั้น นับเป็นโอกาสและจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากสำหรับพวกเรา ซึ่งไม่เพียงแค่ได้รับเงินสนับสนุนเพื่อให้การศึกษาดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น แต่ยังได้รับความรู้ ประสบการณ์ ผ่านโอกาสการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวทุนการศึกษาซีพีที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 โดยมีพี่ๆคอยสนับสนุน ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข และได้มีโอกาสมารู้จักกับเพื่อนๆที่ต่างที่มา ต่างวัฒนธรรม ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และได้คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันตลอดไป
“ก่อนที่ตัวเองและเพื่อนๆจะได้รับทุนการศึกษานี้ พวกเราเคยมีชีวิตที่ยากลำบาก ต้องขวนขวายทำงานพิเศษเพื่อที่จะนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเป็นค่าเทอม บางคนต้องพักการศึกษาไปก่อน เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายให้ตนเองได้ศึกษาต่อ บางคนต้องอดออม ทานข้าววันละมื้อเพื่อให้มีเงินพอใช้ในครอบครัว การได้รับทุนนี้ไม่ใช่แค่ได้รับเงินทุน แต่ยังได้รับความมั่นคงทางการศึกษา ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลว่าเราจะมีเงินพอจ่าย เราจะเรียนจบไหม นอกจากนี้เรายังได้รับความรู้ ทักษะการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล ได้พัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ ฝึกการวิเคราะห์แก้ไขปัญหา การได้ทุนนี้ทำให้รู้ว่า ต่อให้เราล้ม หรือ ผิดพลาดไป ก็ยังคงมีคนคอยประคับประคองเราอยู่ ซึ่งทั้งหมดนี้คือโอกาส พวกเราทุกคนดีใจมากที่ได้รับโอกาสนี้”
น.ส.ดารินทร์ โอบกิจการ นักเรียนชั้นม. 5 โรงเรียนสะเมิงวิทยาคม อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ หนึ่งในผู้ที่ได้รับ “ทุนนวัตกร” เปิดเผยว่า ตนเองเป็นลูกครึ่งกะเหรี่ยง ครอบครัวมีฐานะค่อนข้างยากจน เพราะที่บ้านทำอาชีพเกษตรกรรม ทำให้มีรายได้ปีละครั้ง และไม่คงที่ การได้รับทุนการศึกษา นอกจะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินแล้ว ยังช่วยต่อยอดความฝันการเป็นเภสัชกร ที่จะสามารถนำความรู้ไปพัฒนาคนในหมู่บ้านได้อีกด้วย
“ทุนนี้ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัว ทำให้ครอบครัวไม่ต้องมาคอยกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่าย และการได้มาร่วมกิจกรรม Boot Camp ยิ่งทำให้เราได้เรียนรู้จากสิ่งที่อยู่นอกห้องเรียนเพิ่มมากขึ้น เพิ่มศักยภาพให้ตัวเอง ซึ่งตนเองมีความฝันที่อยากจะเป็นเภสัชกร เพราะสนใจในวิชาเคมี อีกทั้งหมู่บ้านที่ตนเองอยู่ค่อนข้างไกลและยากลำบาก ทำให้เวลาเห็นคนในครอบครัวหรือคนในหมู่บ้านป่วย อยากช่วยดูแลรักษาพวกเขาให้หายจากโรคนี้”
ขณะที่ น.ส.แอมมิกา พืชเกิด นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสหเวชศาสตร์ สาขาวิชาเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับทุนนี้เป็นปีที่ 3 ซึ่งทุนนี้ถือว่าช่วยแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก หลังครอบครัวมีค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ จนกระทบต่อการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ซึ่งการได้รับทุนนี้ ทำให้ตนเองสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม อีกทั้งส่วนตัวยังชื่นชอบการทำกิจกรรมอาสาสมัครอยู่แล้ว ซึ่งทุนซีพีถือเป็นส่วนหนึ่งให้ตนเองได้ทำกิจกรรมนี้ เสมือนการตอบแทนสังคม และส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่น เหมือนกับที่ตนเองได้รับโอกาสมา ทั้งนี้ในอนาคตวางแผนไว้ว่าอยากจะเป็นนักเทคนิคการแพทย์ในโรงพยาบาล หรือเปิดคลีนิกของตนเอง เพื่อช่วยเหลือสังคม พร้อมๆกับทำงานจิตอาสาควบคู่กันไปด้วย
โดยก่อนหน้านี้ ผู้ได้รับทุน ได้พร้อมใจกันเข้าร่วมโครงการ “CP Scholarship Boot Camp 2024” ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21-25 ตุลาคม 2567 โดยภายในงานนี้มีหลักสูตรการฝึกอบรมระดับโลกมุ่งเสริมทักษะการเป็นผู้นำ พัฒนาการทำงานเป็นทีม และเปิดโลกทัศน์ด้วยกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์หลากหลาย พร้อมการศึกษาดูงานที่ CP Meiji น้อง ๆ ยังเข้าร่วมโครงการ “ชุมชนเพื่อความยั่งยืน” สร้างจิตสำนึกสาธารณะและความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อปลูกฝังจิตอาสาในหัวใจคนรุ่นใหม่ และจะได้เข้ารับการฝึกงานกับบริษัทต่าง ๆ ในเครือซีพี เพื่อฝึกประสบการณ์ตรงจากการเข้ารับการฝึกงาน และได้มีโอกาสนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติจริง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษตอบคำถามชิงรางวัลจาก ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร และประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อให้น้องๆได้รู้จักเครือเจริญโภคภัณฑ์กันมากขึ้น โดยน้องๆทุกคนต่างตั้งใจรับฟังคำถามและร่วมกันค้นหาคำตอบ จนมีผู้ที่สามารถคว้าคะแนนเต็มและได้รับรางวัลพิเศษ
บรรยากาศตลอด 5 วันของงาน Boot Camp ในปีนี้ยังคงเต็มอิ่มและอบอุ่น พราะนอกจากจะได้ความรู้จากเหล่าวิทยากรที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้ความรู้แล้ว น้องๆยังได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับรุ่นพี่ที่เคยได้รับทุนซีพีในรุ่นก่อนๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและคราบน้ำตา ผ่านกิจกรรมการ์ดแสดงความรู้สึก เพื่อให้น้องๆได้เปิดใจและระบายความรู้สึกของตนเองออกมา นับเป็นกิจกรรมที่ช่วยสานความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องได้เป็นอย่างดี
เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนไทย ด้วยความเชื่อมั่นว่าการศึกษาเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย โดยโครงการนี้ไม่เพียงเป็นโอกาสให้ผู้ขาดแคลนได้รับทุน เพื่อต่อยอดการศึกษา แต่ยังเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้นำในยุคใหม่ ที่ทุกคนจะได้เรียนรู้จริงและสัมผัสประสบการณ์การทำงานในบริษัทชั้นนำของเครือซีพี ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้กับเยาวชนเหล่านี้ในอนาคต