คุณสุปรี เบ้าสิงห์สวย กรรมการและผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทเปิดเผยว่าคณะกรรมการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท มีมติให้ดำเนินโครงการซี.พี.คืนสุขผู้สูงวัยในชนบทที่ห่างไกลเพื่อให้การช่วยเหลือ ดูแล ผู้สูงวัยที่ยากไร้ในชนบทเพื่อรองรับการเข้าสู้สังคมผู้สูงวัยของประเทศไทยซึ่งคาดว่าในอีก 10 ปีหรือในปี 2574 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 28 ซึ่งถือเป็นการก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด มีผู้ที่มีอายุ 60 ปีเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ28ของประชากรทั้งประเทศ ทั้งนี้พบว่าปัจจุบันประเทศไทยมีผู้สูงอายุราว 11 ล้านคนคิดเป็นร้อยละ16.50ของประชากรทั้งประเทศ ประกอบด้วยผู้สูงวัยติดเตียง 161,760 คน ผู้สูงวัยติดบ้าน 2,048,840 คน และผู้สูงวัยติดสังคม 8,572,780 คน โดยผู้สูงวัยทั้ง3 กลุ่มมีโอกาสที่จะต้องอยู่ตามลำพังปราศจากลูก ญาติ พี่น้องที่ต้องดูแล
“ด้วยเหตุนี้ ท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์และคณะกรรมการมูลนิธิฯจึงเห็นควรให้มูลนิธิฯดำเนินโครงการซี.พี.คืนสุขผู้สูงวัยในชนบทที่ห่างไกล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลผู้สูงวัยที่ถูกทอดทิ้ง และร่วมมือกับภาครัฐ ภาคประชาสังคมรวมทั้งพนักงานเครือฯในการสนับสนุนให้ผู้สูงวัยในชนบทที่ห่างไกล ที่ถูกทอดทิ้งได้รับการช่วยเหลือให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข”คุณสุปรีกล่าว
โครงการนี้จะเป็นการดำเนินงานเสริมจากที่ทางบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารหรือซีพีเอฟดำเนินการอยู่ โดยซีพีเอฟจะดูแลรับผิดชอบผู้สูงวัยภายในรัศมี 5 กิโลเมตร รอบโรงงาน ขณะที่มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทจะรับผิดชอบผู้สูงวัยนอกรัศมี5กิโลเมตรของซีพีเอฟ และเน้นกลุ่มผู้สูงวัยที่ขาดผู้ดูแลหรือไร้ญาติ โดยมีพื้นที่นำร่องได้แก่จังหวัดนครพนมและเชียงราย จำนวนเป้าหมาย 20 คน โดยจะเริ่มดำเนินงานตั้งแต่กรกฎาคม 2563-30มิถุนายน 2564
คุณสุปรีเปิดเผยว่าขณะนี้โครงการฯกำลังอยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้สูงวัยจากคณะกรรมการคัดเลือก โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน นี้เพื่อเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกรกฎาคม โดยคาดว่าระหว่างการดำเนินงานจะมีการพัฒนากลไกต่างๆโดยเฉพาะด้านบุคลากรและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันดูแลผู้สูงวัย การพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงวัยในระยะยาวเพื่อฟื้นฟูสุขภาพให้กับผู้สูงวัยที่ติดเตียง มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว การพัฒนาบุคลากรเพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะเฉพาะด้านการดูแลผู้สูงอายุอย่างมืออาชีพ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม ปลอดภัยด้านสภาพแวดล้อมสำหรับผู้สูงวัย ตลอดจนส่งเสริมจิตอาสา ชุมชนต้นแบบในการดูแลผู้สูงวัย
นอกเหนือจากดูแลผู้สูงอายุกลุ่มนี้ซึ่งต้องการการพึ่งพิง สูง มูลนิธิยังริเริ่ม เตรียมดำเนินการศูนย์ดูแลสุขภาพผู้สูงวัย โดยนำร่องที่ ต.หังโง้ม อ.พาน จ.เชียงราย และ ต.ท่าเรืออ.นาหว้า จ.นครพนม พร้อมๆกับโครงการซีพีคืนสุขผู้สูงวัยในชนบทที่ห่างไกล ไปพร้อมกัน