วิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้หลายภาคส่วนรณรงค์ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เช่น การทำงานที่บ้านทดแทนภาวะปกติ เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อในสถานที่ที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมากไม่ให้ขยายวงกว้าง แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน
ปัจจุบันมีบริการดีลิเวอรีที่ส่งสินค้า อาหารและเครื่องดื่มจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือร้านสะดวกซื้ออย่าง “เซเว่นอีเลฟเว่น” เปิดให้บริการ “7-Eleven Delivery” ส่งสินค้าจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่นถึงบ้าน ล่าสุดประกาศรับสมัครงาน 20,000 อัตราทั่วประเทศเพื่อขยายบริการจากปัจจุบัน 1,500 สาขา เพิ่มเป็นทุกสาขาในอนาคต
“7-Eleven Delivery” เปิดให้บริการเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจากทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นผ่านแอปพลิเคชัน 7-Delivery เฉพาะสาขาและพื้นที่ที่ให้บริการ และเลือกรับสินค้าได้ทั้งที่สาขา หรือส่งที่บ้านและสำนักงาน มีพนักงานร้านจัดส่งตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น. รวมทั้งสะสมคะแนน ออล เมมเบอร์ได้อีกด้วย
สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นประจำ เพื่อความคุ้มค่าที่มากกว่า ขอแนะนำดังต่อไปนี้ 1. มีแอปพลิเคชัน 7-Eleven 2. สมัครใช้งาน TrueMoney Wallet โดยผูกกับแอปฯ 7-Eleven และเติมเงินเรียบร้อยแล้ว 3. มีเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นสมาชิก ALL Member ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษที่มากกว่า เช่น ส่วนลด หรือคะแนนสะสม
วิธีการใช้งานก็คือ ดาวน์โหลดแอปฯ 7-Delivery เลือกแถบ “จัดส่งถึงที่” เพื่อเลือกตำแหน่งจัดส่ง โดยต้องเปิดบริการโลเคชัน ระบบจะจับพิกัดระหว่างสถานที่กับสาขาของร้านที่ใกล้ที่สุด จากนั้นพิมพ์ชื่อสินค้าที่ต้องการ แล้วกดค้นหา หรือจะเลือกตามหมวดหมู่ที่จัดเตรียมไว้ กดจำนวนและกดปุ่ม “ใส่ตะกร้า” ตามที่ต้องการ
สำหรับราคาสินค้าในบริการ 7-Delivery จะเหมือนกับสาขาของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ไม่มีบวกเพิ่ม จึงวางใจได้เลยว่า เหมือนกับการซื้อสินค้าในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกประการ เพียงแต่ไม่ต้องไปที่ร้านเอง หรือกรณีที่จะรับสินค้าที่ร้านสาขาใกล้เคียงกับที่แอปฯ จับคู่ไว้ให้ก็สามารถทำได้อีกด้วย
เมื่อเลือกสินค้าเสร็จแล้ว ให้กดปุ่มไอคอนตะกร้าด้านมุมขวาบน เพื่อเข้าสู่ตะกร้าสินค้า แล้วกด “ชำระเงิน” ระบบจะให้กรอกหมายเลขโทรศัพท์ จากนั้นรอรับรหัส OTP จาก SMS จำนวน 6 หลัก แล้วกรอกลงไป ระบบจะขึ้นคำว่า “ยินดีต้อนรับ คุณเป็นสมาชิก ALL Member แล้ว” อ่านเงื่อนไขแล้วกด “ต้องการ” เพื่อผูกบัญชี ALL Member
จากนั้นระบบจะเข้าสู่หน้า “สั่งซื้อสินค้า” ในช่อง “ข้อความถึงร้าน” ให้กรอกบ้านเลขที่ ชื่อหมู่บ้าน (แนะนำว่าให้กรอกข้อมูลอย่างละเอียดจากสาขามาถึงบ้านพอสังเขป) ตรวจสอบรายการสินค้า เลือกคูปองส่วนลด (ถ้ามี) และวิธีการชำระเงิน มีให้เลือกระหว่างชำระเงินทันทีผ่าน TrueMoney Wallet หรือ ชำระปลายทางด้วยเงินสด
หากชำระเงินทันทีผ่าน TrueMoney Wallet ใช้วิธีแคปหน้าจอบาร์โค้ดในแอปฯ 7-Eleven โดยเข้าไปที่เมนู “จ่ายเงิน/เติมเงิน” ใส่รหัสผ่าน 6 หลัก แล้วแคปหน้าจอบาร์โค้ดของ TrueMoney Wallet จากนั้นกลับไปที่แอปฯ 7-Delivery เลือก “แนบรูปบาร์โค้ด” ก่อนที่จะส่งรูปบาร์โค้ดจนขึ้นสัญลักษณ์เครื่องหมายถูกสีเขียวเป็นอันเสร็จสิ้น
ทางร้านจะสแกนบาร์โค้ดและหักจากเงินในบัญชีทรูมันนี่ TrueMoney Wallet ก่อนส่ง SMS ระบุว่า “ชำระเงิน xxx.xx บาท ให้ 7-ELEVEN คงเหลือ xxx.xx บาท” จึงควรเติมเงินเข้าบัญชี TrueMoney Wallet ให้พอกับค่าสินค้า โดยสามารถเติมเงินโดยเชื่อมบัญชีธนาคารได้ทันที หรือเติมเงินผ่านธนาคาร ร้านค้า และตู้เติมเงินต่างๆ ได้
ในกรณีที่ทางร้านฯ ได้รับคำสั่งซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้ว จะจัดเตรียมสินค้าและส่งถึงบ้านโดยรถจักรยานยนต์ ระยะเวลาในการจัดส่งขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้าที่สั่งชื้อและระยะทาง กรณีที่สินค้าหมดหรือไม่มี ทางร้านจะโทรศัพท์แจ้งลูกค้าเพื่อยกเลิกหรือเปลี่ยนเป็นสินค้าชนิดอื่น ลูกค้าควรสอบถามยอดเงินที่ต้องชำระด้วย
ข้อจำกัดของบริการ 7-Eleven Delivery คือ 1.ทดลองการให้บริการบางพื้นที่ และเฉพาะร้านสาขา เพื่อพัฒนาการให้บริการ (ปัจจุบันมี 1,500 สาขาทั่วประเทศ) 2.ทางร้านจะงดให้บริการจัดส่งสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ เนื่องจากผิดกฎหมาย 3.ให้บริการเฉพาะเวลา 07.00-22.00 น. แต่สามารถกำหนดเวลาส่งสินค้าล่วงหน้าได้
ช่วงแนะนำ เมื่อมียอดซื้อสินค้าตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป หลังหักส่วนลด บริการส่งฟรี (จากอัตราค่าส่งปกติ 20 บาท), เมื่อชำระผ่านทาง TrueMoney Wallet รับส่วนลด 10 บาท และเมื่อสั่งสินค้าตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไปและชำระผ่าน TrueMoney Wallet ครบ 5 ครั้ง รับคูปองส่วนลด 50 บาท สำหรับการสั่งซื้อสินค้าครั้งถัดไปมูลค่า 150 บาทขึ้นไป
ถือเป็นอีกทางเลือกในการสั่งสินค้าที่สะดวกสบายและไม่ต้องออกจากบ้าน ดาวน์โหลดแอปฯ 7-Delivery เพื่อใช้บริการ 7-Eleven Delivery ได้ที่ AppStore และ GooglePlay
ที่มา : ibusiness.com