เมื่อเร็ว ๆนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ร่วมกับสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CPLI) จัดงานสัมมนาออนไลน์ตอกย้ำความรู้ธุรกิจ 5 ประสาน เรียนรู้ธุรกิจค้าปลีก โดยคุณสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจโลตัสประเทศไทย ให้เกียรตินำบรรยายถึงวิสัยทัศน์ แนวคิด แนวปฏิบัติ พร้อมให้ความรู้ธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ ลูกค้า และภาพลักษณ์ของกลุ่มธุรกิจค้าปลีก มี CP Ambassador เข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ครั้งนี้ กว่า 450 คน
คุณสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจโลตัสประเทศไทย เป็นหนึ่งในทีมบุกเบิกธุรกิจค้าปลีกของซีพี เล่าถึงที่มาของการทำธุรกิจค้าปลีกว่า เครือฯ บุกเบิกธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตภายใต้ชื่อ โลตัส โดยเปิดสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ เมื่อปี 1994 และทยอยเปิดตามหัวเมืองในไทย รวมทั้งหมด 13 สาขา ก่อนจะขายให้เทสโก้กรุ๊ป
ทั้งนี้ ในปี 2021 โลตัส ได้กลับมาอยู่ภายใต้เครือซีพีอีกครั้ง และได้มีการรีแบรนด์เป็น Lotus’s โดยได้เติม ‘s เพิ่มขึ้นมาสื่อถึงสัญลักษณ์ Drop Pin ส่วนตัว s ย่อมาจาก Smart ซึ่งการกลับมาครั้งนี้โลตัสวางตำแหน่งตัวเองเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มีครบจบทุกอย่าง เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีในทุก ๆ วัน พร้อมทั้งแตกแขนงแบรนด์ย่อยออกเป็น Lotus’s Express, Lotus’s Go Fresh เพื่อตอบสนองความต้องการและตอบโจทย์ลูกค้าที่มีพฤติกรรมที่หลากหลายอีกด้วย
คุณสมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มลูกค้าหลักของโลตัสคือ คุณแม่ที่มีลูกเล็ก โฟกัสเรื่องความคุ้มค่า จับจ่ายเพื่อครอบครัว รวมทั้งคุณแม่ที่มีลูกวัยรุ่น มีกำลังซื้อมากขึ้น และให้การยอมรับธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเป้าหมายช่วงอายุ 20-30 ปีที่เน้นคุณค่าทางประสบการณ์มากกว่าความคุ้มค่าราคา รองลงมาเป็นกลุ่มนักเรียนและผู้สูงอายุ ซึ่งโลตัสมีการเก็บข้อมูลลูกค้าเป็นรายบุคคลและลูกค้าบริษัท เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และพัฒนาแผนการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์อยู่เสมอ ทำให้โลตัสเป็นแบรนด์ที่ได้รับการโหวตว่ามีความเชื่อถือได้ ลูกค้าพึงพอใจถึง 89% ในการใช้บริการ
นอกจากนี้ โลตัสกำหนดกลยุทธธุรกิจที่นำไปสู่ความยั่งยืน โดยยึดหลักสามประโยชน์ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ข้อค่านิยมเครือซีพี ด้วยการมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรสอดรับวิสัยทัศน์คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือฯ ที่มีนโยบายให้เกิด “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” เพื่อเป็นช่องทางให้แก่เอสเอ็มอีและเกษตรกร รวมทั้งลูกค้าให้ได้รับความคุ้มค่าด้านราคา และสามารถลดต้นทุนลงได้ โดยแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ไม่เพียงนำผลผลิตหรือสินค้าเข้ามาขายในพื้นที่มอลล์เท่านั้น แต่ยังให้ความรู้ รวมถึงต่อยอดนำเข้ามาขายในโลตัส ช่วยพัฒนาแบรนด์ของเอสเอ็มอี ขับเคลื่อนให้มีตรายี่ห้อกระจายจัดจำหน่ายได้ทั่วประเทศหรืออาจส่งออกต่างประเทศได้ด้วย
คุณสมพงษ์ ยังได้กล่าวอีกว่า “การที่พวกเราได้อยู่ในองค์กรใหญ่ โอกาสแรกของพนักงาน คือ โอกาสในการเรียนรู้มุมมองของธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เครือฯ ต้องการคนที่รู้ลึก รู้จริง รู้กว้าง ขอให้ทุกคนมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในเครือฯ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปด้วยกัน เติบโตไปด้วยกัน”