ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ
เศรษฐกิจสิงคโปร์
สิงคโปร์รอดพ้นศก.ถดถอยในปี 66 แต่กังวลแนวโน้มถูกกระทบจากความขัดแย้งทั่วโลก
- นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์ในปี 2566 ขยายตัว 1.2% ซึ่งสูงกว่าที่กระทรวงการค้าสิงคโปร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวเพียง 1% ซึ่งทำให้สิงคโปร์สามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2566 คาด 2567 ขยายตัวราว 1% – 3%
- ปี 2566 เป็นปีที่เศรษฐกิจสิงคโปร์เผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ซึ่งรวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่มีแนวโน้มจบสิ้นลง พร้อมกับเตือนว่าสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในต่างประเทศอาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตและความมั่นคงของสิงคโปร์ เนื่องจากสิงคโปร์ต้องพึ่งพาการค้าโลก
- ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุว่า การขยายตัวของ GDP ปี 2567 ของสิงคโปร์จะอยู่ที่ 2.3% ลดลงจากการสำรวจในเดือนก.ย.ซึ่งอยู่ที่ 2.5% นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสิงคโปร์ซึ่งไม่นับรวมราคาการขนส่งและที่พักอาศัยของภาคเอกชนนั้น จะลดลงสู่ระดับ 3.4% และ 3% ตามลำดับในปี 2567 เมื่อเทียบกับตัวเลขในปี 2566 (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
เศรษฐกิจจีน
Bloomberg ชี้นักลงทุน 1 ใน 3 มองหุ้นจีนที่ดิ่งลงเกือบ 60% เป็นจุดต่ำสุด
- หุ้นจีนที่ดิ่งลงเกือบ 60% จะกลายเป็นสัญญาณซื้อสำหรับใครหลายคน เพราะจากแบบสอบถาม Markets Live Pulse ฉบับล่าสุดของ Bloomberg เกือบ 1 ใน 3 ของนักลงทุนจำนวน 417 ระบุว่าจะเพิ่มการลงทุนในจีนภายในปี 2024 และมีเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่คาดว่าจะลดสัดส่วนการถือครองหุ้นจีน
- หุ้นจีนที่เคยแตะจุดสูงสุดในช่วงต้นปี 2021 และตั้งแต่นั้นมาก็ทรุดตัวลงเกือบ 60% เข้าสู่ภาวะซบเซาในตลาดอย่างรุนแรง ตามรายงานของ MSCI China Index การดิ่งลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ความเชื่อมั่นที่ลดลงของผู้บริโภค และเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง
- ผลการวิจัยล่าสุดของ Goldman Sachs ได้แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นอย่างอินเดียและบราซิลที่มีผลตอบแทนที่ดีกว่าในปี 2023 ทำให้เม็ดเงินลงทุนไปยังจีนอยู่ในระดับต่ำสุดเกือบทศวรรษ ขณะที่ข้อมูลสำรวจของ Bank of America พบว่าจีนเป็นตลาดในเอเชียที่มีน้ำหนักการลงทุนน้อยที่สุด นั่นหมายความว่ายังมีพื้นที่ให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนอีกมากภายในจีน
- ข้อดีอย่างหนึ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับจีนก็คือ หากรัฐบาลมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการเงินให้แก่ครัวเรือนบางประเภทที่ยังคงอ่อนแออยู่ก็จะทำให้ตลาดทุนได้รับอานิสงส์เป็นอย่างมาก (เดอะสแตนดาร์ด)
เศรษฐกิจไทย
‘ไทย-จีน’ เว้นวีซ่าดันท่องเที่ยว ลุ้นนักท่องเที่ยวทะลุ 8 ล้านคนปี 67
- นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (2 ม.ค.) ระบุว่าประเทศไทยและประเทศจีนมีข้อตกลงในการยกเว้นวีซ่าระหว่างกันอย่างถาวร ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2567 เป็นต้นไป
- ถือเป็นการยกระดับความสำคัญของหนังสือเดินทาง ไทยในการเดินทางของทั้งสองประเทศ และขอให้มีการประชาสัมพันธ์ว่าทั้งไทยและจีนต่างมีความพร้อมในการเปิดประเทศและดูแลนักท่องเที่ยวของกันและกัน
- โดยตลอดปี 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 3,519,735 คน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 28,042,131 คน และ ททท. ตั้งเป้าในปี 2567 ที่จำนวน 8 ล้านคน
- ขณะเดียวกัน การยกเว้นวีซ่าระหว่างกัน ก็จะทำให้คนไทยไปเที่ยวจีนมากขึ้นเช่นกัน ต่อไปคนไทยจะไม่ต้องห่วงหรือรอการยื่นขอวีซ่าอีกแล้ว ซึ่งบางครั้งก็โดนตีกลับ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2567 เป็นต้นไป คนไทยจะไปเที่ยวจีนเมื่อไรก็ได้ ขอแค่มีตั๋วเครื่องบินก็ไปได้เลย (กรุงเทพธุรกิจ)