ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ
เศรษฐกิจสหรัฐฯ
Fitch ปรับลดอันดับเครดิตระยะยาวของสหรัฐเป็น AA+ จาก AAA
- Fitch Ratings ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ จากระดับ AAA ลงสู่ AA+ โดยให้เหตุผลเรื่องฐานะการคลังของสหรัฐที่คาดว่าจะถดถอยลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า
- หลายทศวรรษที่ผ่านมาสหรัฐอยู่ในความขัดแย้งทางการเมือง เผชิญภาวะหาทางออกไม่ได้เรื่องเพดานหนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมีการแก้ไขปัญหาในนาทีสุดท้าย ซึ่งเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในการจัดการทางการคลัง
- ทำเนียบขาวไม่เห็นด้วยกับการปรับลดอันดับเครดิตของฟิทช์ว่า “มันท้าทายความเป็นจริงที่จะปรับลดอันดับสหรัฐในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีไบเดนได้ส่งมอบการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งที่สุดของเศรษฐกิจหลักของโลก”
- นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สถาบันจัดอันดับได้ปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ หลัง Standard & Poor’s ลดอันดับเครดิตของประเทศเป็น AA+ จาก AAA ในปี 2554 หลังจากที่วอชิงตันสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ โดยในเวลานั้น หน่วยงานเน้นถึงความเสี่ยงทางการเมืองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผล (ซีเอ็นบีซี)
เทคโนโลยี
Uber ทำกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี หลังขาดทุนเรื้อรังมากถึง 3.15 หมื่นล้านดอลลาร์
- บริษัทรายงานผลกำไรจากการดำเนินงานเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี จากการควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น หลังขาดทุนเรื้อรังถึง 3.15 หมื่นล้าน จากการใช้จ่ายอย่างหนักเป็นระยะเวลาเกือบทศวรรษเพื่อหวังการเติบโตอย่างรวดเร็ว
- ประธานกรรมการบริหารของ Uber ระบุว่า ตลอดหลายปีผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามพูดถึง Uber ต้องยอมรับว่าผลกำไรไม่ใช่สิ่งแรกที่ถูกพูดถึงหรือนึกถึง ในความเป็นจริง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานักวิเคราะห์จำนวนมากก็ประกาศอย่างตรงไปตรงมาว่าบริษัทจะไม่สามารถทำเงินใดๆ ได้เลย
- การพลิกผันทางการเงินของ Uber เป็นผลมาจากความต้องการใช้บริการที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการแพร่ระบาดของโควิด และบริษัทประสบความสำเร็จในการขยายตัวไปสู่ธุรกิจบริการส่งอาหาร
- ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ Uber รายงานกำไรก่อนหักภาษีจากการดำเนินงานเป็นเงินจำนวน 326 ล้านดอลลาร์ พลิกกลับจากการขาดทุนจากการดำเนินงาน 713 ล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า (เดอะสแตนดาร์ด)
เศรษฐกิจไทย
กนง.มีมติ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ 0.25% สู่ 2.25% สูงสุดในรอบ 9 ปี
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง.ในวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ว่าคณะกรรมการ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที
- เศรษฐกิจในภาพรวมมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยอุปสงค์จากต่างประเทศชะลอลง แต่คาดว่าจะทยอยปรับดีขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อปรับลดลงและมีแนวโน้มทรงตัวในกรอบเป้าหมาย โดยยังมีความเสี่ยงสูง
- เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ ขณะที่การส่งออกสินค้าหดตัวในระยะสั้น ส่วนหนึ่งตามเศรษฐกิจจีนและวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่ฟื้นตัวได้ช้า
- แต่คาดว่าจะปรับดีขึ้นในระยะข้างหน้าสอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น ทั้งจากภาคการส่งออกสินค้าที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด
- คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องเข้าสู่ระดับศักยภาพ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อโน้มเข้าสู่กรอบเป้าหมายแต่ยังต้องคิดตามความเสี่ยงด้านสูง นโยบายการเงินยังควรดูแลให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายอย่างยั่งยืนให้ความสำคัญกับเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว (กรุงเทพธุรกิจ)