ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ
เศรษฐกิจโลก
ปี 2023 IMF เตือน 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
- คริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า ปี 2023 จะยิ่งยากลำบากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และจีน ต่างมองว่าเศรษฐกิจของตนเองกำลังชะลอตัวลง ปัจจัยฉุดรั้งมีตั้งแต่สงครามยูเครน อัตราเงินเฟ้อพุ่ง รวมกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีนที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้จะเติบโต 2.7% ซึ่งน้อยกว่าในปี 2022 ที่เติบโต 3.2%
- คาดว่า 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2023 แม้แต่ประเทศที่ไม่ได้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผู้คนหลายร้อยล้านคนก็จะรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังเจอกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นกัน (BBC)
ธนาคารกรุงไทย มองปี 2023 เป็นปีที่ท้าทายของเศรษฐกิจไทย
- นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกปี 2023 ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ตามสำหรับเศรษฐกิจไทยจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ จากการเติบโตของการท่องเที่ยว
- กรุงไทย คอมพาส คาดจีดีพีไทยจะเติบโต 3.4% และมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 21.4 ล้านคนปีนี้ (บางกอกโพสต์)
การท่องเที่ยวไทย
5 มกราคม สธ. เตรียมเสนอมาตรการ รับมือ “จีนเปิดประเทศ” 8 มกราคม นี้
- กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอ ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศทุกคนจากทุกประเทศจะต้องมีบันทึกการรับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม
- สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศจีนจะต้องมีแพ็คเกจประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาโควิด-19 อย่างครบถ้วน และต้องมีผลตรวจเป็นลบ ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางถึงประเทศไทย
- กระทรวงการต่างประเทศคาด นักท่องเที่ยวจากจีนเดือน ม.ค. 60,000 คน ก.พ. 90,000 คน มี.ค. 150,000 คน คิดเป็น 5% จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด โดยภาพรวมปี 2023 อยู่ระหว่าง 7 – 10 ล้านคน (บางกอกโพสต์)
ยานยนต์ไฟฟ้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดปี 68 รถยนต์ EVs แตะ 3 แสนคัน จับตาจุดชาร์จอีวีอาจโตสวนทาง
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าปี 2568 จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง PHEV และ BEV อาจมีถึง 3 แสนคัน ซึ่งย่อมทำให้มีความต้องการชาร์จไฟเพิ่ม แต่การลงทุนจุดชาร์จในที่สาธารณะบางพื้นที่อาจเติบโตสวนทาง
- ข้อมูลเบื้องต้น คาดว่ามีช่องจอดรถยนต์สำหรับชาร์จไฟทั่วประเทศราว 4,000 ช่องจอด อย่างไรก็ตาม จำนวนที่เพียงพออาจควรต้องมีสะสมไม่น้อยกว่า 19,000 ช่องจอด (โพสต์ทูเดย์)
