ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ
เทคโนโลยี
‘Intel’ ขาดทุน 250,000 ล้านบาท รายได้ลดลง 31% จากปีที่แล้ว
- “Intel” บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ประสบขาดทุนหนักมากถึง 256,000 ล้านบาท อีกทั้งรายได้ยังลดลง 31% จากปีที่แล้ว เนื่องจากบริษัทตัดสินใจผิดพลาด ไม่ลงทุนเครื่องจักร Extreme Ultraviolet Lithography (EUV) ในการผลิตชิปขั้นสูงตั้งแต่ปีที่แล้ว
- CEO ของ Intel กล่าวต่อเรื่องนี้ว่า ปี 2567 จะเป็นปีที่แย่ที่สุดสำหรับการขาดทุนของธุรกิจผลิตชิป และคาดว่าจะกลับมาสู่จุดคุ้มทุนได้ในราวปี 2570
- อย่างไรก็ตาม Intel พยายามพึ่งพาตัวเองมากขึ้น โดยลดการใช้แผ่นเวเฟอร์ชิปจากบริษัท TSMC ลงจากเดิมที่ราว 30% สู่เป้าหมาย 20% แทน
- นอกจากนี้ Intel ยังทุ่มลงทุน 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.6 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างและขยายโรงงานชิปใน 4 มลรัฐของสหรัฐ เพื่อเร่งกำลังการผลิต และให้สามารถตามทันคู่แข่งด้านชิปอย่าง TSMC และ Samsung ที่ขยายโรงงานผลิตเช่นเดียวกัน (กรุงเทพธุรกิจ)
ภูมิรัฐศาสตร์
ไบเดน-สีจิ้นผิง หารือกันครั้งแรกในรอบเกือบ 4 เดือน เน้นย้ำแนวทางลดความขัดแย้ง
- โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พูดคุยหารือกับ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ผ่านโทรศัพท์สายตรง เป็นการพูดคุยหารือกันครั้งแรกในรอบเกือบ 4 เดือน หลังงร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC
- สีจิ้นผิงได้เสนอให้ทั้งจีนและสหรัฐฯ ยึดมั่นในหลักการพื้นฐาน ‘ไม่ปะทะ ไม่เผชิญหน้า’ (No Clash, No Confrontation) ให้ความสำคัญความมั่นคงและเสถียรภาพ ไม่ก่อปัญหายั่วยุหรือล้ำเส้นใดๆ เพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ โดยสีจิ้นผิงยังเน้นย้ำว่า กรณีไต้หวันเป็นเส้นสีแดงที่สหรัฐฯ ไม่ควรก้าวข้าม
- ผู้นำจีนยังระบุว่า ข้อจำกัดด้านการถ่ายโอนเทคโนโลยีขั้นสูงและมาตรการคว่ำบาตรต่อธุรกิจจีนได้สร้างความเสียหายให้กับจีนเป็นอย่างมาก ด้านสหรัฐฯ ชี้แจงว่า ข้อจำกัดต่างๆ รวมถึงร่างกฎหมายแบน TikTok เป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลผู้ใช้งานถูกส่งไปยังรัฐบาลจีน ซึ่งนำไปสู่ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ (เดอะสแตนดาร์ด)
เศรษฐกิจไทย
‘ต่างชาติเที่ยวไทย’ ไตรมาส 1/2567 สะสม 9.4 ล้านคน ‘จีน’ รั้งอันดับ 1
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดสถิติ ‘ต่างชาติเที่ยวไทย’ ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. ยอดสะสม 9.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 44% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 454,653 ล้านบาท
- ‘นักท่องเที่ยวจีน’ รั้งอันดับ 1 ด้วยจำนวน 1.7 ล้านคน ตามมาด้วย มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย
- ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (25-31 มี.ค.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 644,328 คน ลดลง 1.07% นักท่องเที่ยวยุโรปและโอเชียเนียบางประเทศ โดยเฉพาะชาวสหราชอาณาจักรเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากทำให้ขยับมาำเป็นอันดับ 5 จากวันหยุดในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ (กรุงเทพธุรกิจ)