อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ปรับตัวขึ้น 0.83% คงคาดการณ์ทั้งปีที่ 0.0-1.0% / ยอดส่งออกเดือน ก.ค. ของจีนโตต่ำกว่าคาดที่ 7% ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่ง 7.2% / Meta ปักธงดัน ‘Llama’ ท้าทายคลื่นลูกใหม่ยุค AI

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เศรษฐกิจไทย

อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ปรับตัวขึ้น 0.83% คงคาดการณ์ทั้งปีที่ 0.0-1.0%

  • พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของไทยในเดือนกรกฎาคม 2567 สูงขึ้น 0.83% (YoY) 
  • เนื่องมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้ากลุ่มอาหาร โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ผลไม้สด ข้าวสารเจ้า และข้าวสารเหนียว
  • ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเฉลี่ย 7 เดือน (มกราคม-กรกฎาคม) ของปี 2567 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 สูงขึ้น 0.11% (AoA)
  • เมื่อเทียบเป็นเดือนต่อ เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) หรือเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก สูงขึ้น 0.52% (YoY) เร่งตัวขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ที่สูงขึ้น 0.36% (YoY)
  • กระทรวงพาณิชย์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนสิงหาคม 2567 จะใกล้เคียงกับเดือนกรกฎาคม 2567
  • พูนพงษ์กล่าวว่า คาดการณ์เงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้รวมผลของดิจิทัลวอลเล็ตเข้าไป เนื่องจากดิจิทัลวอลเล็ตเป็นโครงการที่จะเพิ่มกำลังซื้อมากกว่า ไม่ใช่โครงการที่จะเพิ่มต้นทุนการผลิต เพราะฉะนั้นราคาสินค้าจึงไม่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น (เดอะสแตนดาร์ด)

เศรษฐกิจจีน

ยอดส่งออกเดือน ก.ค. ของจีนโตต่ำกว่าคาดที่ 7% ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่ง 7.2%

  • สำนักข่าวต่างประเทศรายงานการเปิดเผยข้อมูลของศุลกากรจีนว่า มูลค่าการส่งออกเมื่อคิดเป็นดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 7% ในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบกับปีที่แล้วต่ำกว่าคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 9.7% ด้านการนำเข้าเพิ่มขึ้น 7.2% มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.5%
  • จากการคำนวณข้อมูลของ CNBC พบว่าจีนนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกรกฎาคม ขณะที่จีนนำเข้าจากอาเซียนเพิ่มขึ้น 11% และนำเข้าจากสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 7%
  • หากนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน พบว่าจีนนำเข้าจากสหรัฐฯ ลดลง 1.4% แต่ส่งออกเพิ่มขึ้น 2.4%
  • ด้านการส่งออกจากจีนไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเมื่อคิดเป็นดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 8% ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่การส่งออกไปยังอาเซียนพุ่งสูงขึ้น 12% ทำให้อาเซียนกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนอย่างชัดเจน ส่วนการส่งออกของจีนไปยังรัสเซียลดลง 3% ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 5%
  • ในสกุลเงินหยวน การส่งออกชะลอตัวลงจากเดือนมิถุนายน มาอยู่ที่ 6.5% เมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนกรกฎาคม การนำเข้าในสกุลเงินหยวนเพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนกรกฎาคม
  • เศรษฐกิจจีนเติบโต 5% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี แต่เดือนมิถุนายนเห็นการชะลอตัวการเติบโตของยอดค้าปลีกเหลือ 2% ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมาย GDP ตลอดทั้งปี 2024  (เดอะสแตนดาร์ด)

เทคโนโลยี

Meta ปักธงดัน ‘Llama’ ท้าทายคลื่นลูกใหม่ยุค AI

  • ล่าสุด Meta ประกาศอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดของ Meta AI ได้แก่ “Llama 3.1” (ลาม่า) ซึ่งเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้โมเดลประมวลผลด้วยภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model)
  • Llama 3.1 มาพร้อมกับโมเดล 8B และ 70B ซึ่งมีการพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติม รวมถึงการเปิดตัว Llama 3 405B ซึ่งเป็นโมเดลแบบโอเพ่นซอร์สที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ 
  • โดยโมเดลแบบโอเพ่นซอร์สของ Llama จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับแต่งและฝึกฝนโมเดลของตนเอง รวมถึงรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และช่วยพัฒนาระบบให้แข็งแกร่ง
  • Llama 3.1 ยังรวมถึงการอัปเดตโมเดล 8B และ 70B ซึ่งขณะนี้รองรับภาษาไทยแล้ว ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ชาวไทยสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับประเทศไทยได้มากขึ้น
  • นอกจาก Llama AI จะเพิ่มการรองรับภาษาไทยแล้ว Meta ยังจะจัดการอบรมและโครงการต่างๆ เพิ่มเติมและให้ทุนสนับสนุนมูลค่ารวม 2 พันล้านดอลลาร์ สำหรับนักพัฒนาและองค์กรทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย
  • ในประเทศไทย Meta ได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล, สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์, AI Governance Clinic และสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT) เพื่อจัดการแข่งขันและคัดเลือกผู้ชนะระดับประเทศ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันระดับภูมิภาคในสิงคโปร์ (กรุงเทพธุรกิจ)