ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ
การค้าโลก
‘จีน‘ เก็บภาษีสินค้าเกษตร-อาหาร ‘แคนาดา‘ 100% ตอบโต้ภาษี EV-เหล็ก
- กระทรวงพาณิชย์ของจีนแถลงในวันที่ 8 มี.ค. ว่า จีนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากแคนาดา เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.นี้ เพื่อตอบโต้ที่แคนาดาเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ผลิตในจีน รวมถึงผลิตภัณฑ์เหล็กและอะลูมิเนียมในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดครั้งใหม่ในสงครามการค้าโลก
- โดยจีนจะเก็บภาษี 100% จากน้ำมันเรปซีด (rapeseed oil), กากน้ำมัน (oil cakes) และถั่วที่นำเข้าจากแคนาดา และเก็บภาษี 25% จากผลิตภัณฑ์ทางทะเลและเนื้อหมูจากแคนาดา
- จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดากล่าวเมื่อเดือนส.ค.ว่า แคนาดาเรียกเก็บภาษีเพื่อตอบโต้ต่อนโยบายที่จีนตั้งใจให้รัฐเป็นผู้ควบคุมความสามารถในการผลิตเกินความจำเป็น โดยแคนาดาดำเนินการตามสหรัฐและสหภาพยุโรป ซึ่งได้เรียกเก็บภาษีนำเข้ากับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน (กรุงเทพธุรกิจ)
ภูมิรัฐศาสตร์
“ปูติน” พร้อมหารือหยุดยิงระหว่างรัสเซีย-ยูเครน แต่ยื่นเงื่อนไขบางประการ
- แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ปูตินของรัสเซียได้แสดงความพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการหยุดยิงชั่วคราวกับยูเครนระหว่างการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ในซาอุดีอาระเบีย
- แผนการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับการหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ถูกเสนอต่อฝ่ายรัสเซีย ซึ่งรัสเซียได้แสดงความชัดเจนว่า หากมีการปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการ การหยุดยิงก็อาจจะสามารถยอมรับได้ เพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีระหว่างทั้งสองประเทศ
- แหล่งข่าวระบุว่า รัสเซียต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับกรอบของข้อตกลงสันติภาพที่ถาวรก่อนที่จะตกลงหยุดยิงชั่วคราว นอกจากนี้ รัสเซียยังต้องการกำหนดการทำงานในภารกิจรักษาสันติภาพ รวมถึงการตัดสินใจว่า ประเทศใดจะเข้าร่วมในภารกิจ
- รัสเซียแสดงความสะดวกใจมากกว่ากับประเทศอย่างจีน ซึ่งมีท่าทีที่เป็นกลางในความขัดแย้งนี้ และพร้อมที่จะส่งกองกำลังเข้ามาจัดการกับสถานการณ์ความขัดแย้ง
- ขณะที่การเจรจากับทางการรัสเซียมีความคืบหน้า สหรัฐฯ และยูเครนจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้าที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งแรกระหว่างสองประเทศนับตั้งแต่มีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดระหว่างประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาวในสัปดาห์ที่ผ่านมา (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
เศรษฐกิจไทย
กระทรวงพาณิชย์เผย เงินเฟ้อไทยเดือน ก.พ. เพิ่ม 1.08% จากปีก่อน
- พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคา
ผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ซึ่งเป็นตัวแทนของเงินเฟ้อ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 อยู่ที่ 100.55 เพิ่มขึ้น 1.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.02% จากเดือนมกราคมที่ผ่านมา - การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อจากปีก่อนเป็นผลจากสินค้า เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช และกาแฟผงสำเร็จรูป ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง เช่น มะนาว พริกสด และมะเขือ ส่วนสินค้าในหมวดอื่นที่ไม่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 0.4% จากน้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน ค่าไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน และค่าโดยสารเครื่องบิน
- ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบเงินเฟ้อไทยกับประเทศอื่นๆ จากข้อมูลในเดือนมกราคม ที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.32% จะเห็นว่าเงินเฟ้อไทยต่ำเป็นอันดับที่ 23 จากทั้งหมด 128 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำเป็นอันดับ 4 ของอาเซียน จาก 8 ประเทศที่ประกาศตัวเลข
- อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยทั้งปี 2568 จะอยู่ในกรอบ 0.3-1.3% ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 1-3% คาด “เงินเฟ้อไตรมาสแรกเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 1.1-1.2% ส่วนไตรมาสคาดว่าจะอยู่ที่ 0.5% ส่วนหนึ่งเพราะไตรมาสแรกปีก่อนฐานค่อนข้างจะต่ำ เพราะเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมปีก่อน -0.02% และ -0.04%” (เดอะสแตนดาร์ด)