ปธน. มาครงประกาศยุบสภาฝรั่งเศส เตรียมเลือกตั้งใหม่ / ‘ตุรกี’ จ่อเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีน 40% ขั้นต่ำ 257,000 บาทต่อคัน / อัตราเงินเฟ้อไทยเพิ่ม 1.54% ในเดือนพฤษภาคม สูงสุดในรอบ 13 เดือน

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เศรษฐกิจฝรั่งเศส

ปธน. มาครงประกาศยุบสภาฝรั่งเศส เตรียมเลือกตั้งใหม่

  • นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศยุบสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 มิ.ย.) พร้อมเดินหน้าเลือกตั้งใหม่ หลังจากพรรคพันธมิตรสายกลางของเขาพ่ายแพ้ให้กับพรรคเนชันแนลแรลลี (National Rally) ฝ่ายขวาจัดในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป
  • ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือ เอ็กซิตโพล (Exit Poll) เมื่อวานนี้บ่งชี้ว่า พรรคเนชันแนลแรลลีได้รับคะแนนเสียงราว 32% ซึ่งมากกว่าคะแนนเสียงที่พรรคพันธมิตรฝ่ายสนับสนุนสหภาพยุโรป (EU) ของปธน.มาครงได้รับถึง 2 เท่า โดยได้ไปเพียง 15% เท่านั้น
  • การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของฝรั่งเศสรอบแรกจะมีขึ้นในวันที่ 30 มิ.ย. และรอบสองในวันที่ 7 ก.ค.
  • ทั้งนี้ ปธน.มาครง แต่จะไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีกหลังจากดำรงตำแหน่งครบสองสมัยแล้วโดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสครั้งต่อไปคาดว่าจะมีขึ้นในปี 2570 (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

 

สงครามการค้าจีน

ตุรกีจ่อเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีน 40% ขั้นต่ำ 257,000 บาทต่อคัน

  • สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ตุรกีเตรียมกำหนดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีนทั้งหมด 40% เพื่อไม่ให้เกิดการขาดดุลการค้า และปกป้องผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศ
  • โดยตุรกีจะกำหนดภาษีขั้นต่ำไว้ที่ 7,000 ดอลลาร์ต่อคัน หรือประมาณ 257,000 บาทต่อคัน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค. เป็นต้นไป
  • รัฐมนตรีกระทรวงการค้าตุรกี กล่าวว่า “จะมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์โดยสารธรรมดาและรถยนต์ไฮบริดจากจีน เพื่อเพิ่มและปกป้องสัดส่วนที่ลดลงของการผลิตรถยนต์ในประเทศ”
  • ในปี 2565 ตุรกีเคยกำหนดภาษีเพิ่มเติมสำหรับการนำเข้ารถยนต์จากจีน และเพิ่มกฎระเบียบเกี่ยวกับการบำรุงรักษาและการบริการสำหรับรถยนต์อีวี และขณะนี้รัฐบาลกำลังกระตุ้นการผลิตและการส่งออกมากขึ้น เพื่อลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งในปีที่แล้วอยู่ที่ระดับ 45,200 ล้านดอลลาร์
  • ทั้งนี้ จีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก จากการส่งออกยานยนต์ได้มากขึ้นของจีน ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป เตรียมประกาศเกี่ยวกับการกำหนดอัตราภาษีพิเศษเพิ่มเติมชั่วคราวในสัปดาห์หน้า (กรุงเทพธุรกิจ)

 

เศรษฐกิจไทย

อัตราเงินเฟ้อไทยเพิ่ม 1.54% ในเดือนพฤษภาคม สูงสุดในรอบ 13 เดือน

  • ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือนพฤษภาคม 2567 สูงขึ้น 1.54%YoY หรือสูงขึ้น 0.63%MoM เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567 อย่างไรก็ดี CPI เฉลี่ย 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม) ของปี 2567 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ลดลง 0.13%AoA
  • โดยมีปัจจัยผลักดันสำคัญๆ ได้แก่ การสูงขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราวจากฐานราคาที่ต่ำในปีก่อน น้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ ตามสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลก และ ราคาผักสดและไข่ไก่ที่สูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศร้อนส่งผลให้ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก
  • สำหรับเดือนมิถุนายนคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อน่าจะเป็นบวกราว 1-1.1% บวกน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังของปี อัตราเงินเฟ้อของไทยก็น่าจะกลับมาเป็นบวกแล้ว แต่ทั้งปีก็ไม่น่าจะถึง 1%
  • ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของปี 2567 อยู่ระหว่าง 0.0-1.0% (ค่ากลาง 0.5%) ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง (เดอะสแตนดาร์ด)